สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือบางคนก็กำลังงมๆ อยู่เหมือนผมตอนแรกๆ นั่นก็คือ “สอบ ielts คือ อะไร” นั่นเองครับ

เอาจริงๆ ตอนแรกเลยนะ ผมก็แบบ… IELTS? อะไรหว่า? ได้ยินคนนู้นคนนี้พูดกันเยอะแยะ โดยเฉพาะใครที่แบบมีความฝันอยากไปเรียนต่อนอก หรืออยากจะย้ายไปทำงานต่างประเทศเงี้ย ก็จะเจอคำนี้โผล่มาตลอด ผมก็เลยเริ่มสงสัยละ ว่ามันคืออะไรกันแน่ ทำไมมันสำคัญจัง

จุดเริ่มต้นของการค้นคว้า

ผมก็เริ่มจากถามเพื่อนๆ ที่เคยมีประสบการณ์ หรือพวกที่ดูมีความรู้เรื่องนี้หน่อย ฮ่าๆๆ บางคนก็บอกว่า “อ๋อ มันเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษไงแก” แต่แค่นั้นมันยังไม่เคลียร์สำหรับผมไง ผมก็เลยลองไปค้นๆ ดูในเน็ตคร่าวๆ (สมัยนั้นยังไม่ค่อยเก่งเรื่องหาข้อมูลเท่าไหร่) ก็พอจะจับใจความได้ว่ามันคือข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถทางภาษาอังกฤษของเรานี่แหละ สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

แล้วที่สำคัญคือ มันไม่ได้วัดแค่ว่าเรารู้ศัพท์เยอะแค่ไหน หรือแกรมมาร์เป๊ะเวอร์หรือเปล่า แต่มันดูครอบคลุมไปหมดเลย ทั้ง การฟัง (Listening), การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing), และ การพูด (Speaking) โอ้โห ตอนนั้นคิดในใจ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ลงลึกไปอีกนิดกับการเตรียมตัว

พอรู้คร่าวๆ แล้วว่ามันคืออะไร ผมก็เริ่มสนใจมากขึ้น เพราะตอนนั้นก็มีแพลนในหัว mơๆ ว่าอยากจะลองไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดูบ้าง ก็เลยคิดว่า เอ้อ! สงสัยต้องสอบไอ้เจ้านี่แหละ

ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัว ผมก็ไปสืบๆ มาอีกว่าข้อสอบมันมีกี่แบบ ปรากฏว่าหลักๆ มันมี 2 แบบ คือ Academic กับ General Training

• Academic เนี่ย เหมาะสำหรับคนที่อยากจะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เค้าจะใช้คะแนนส่วนนี้ยื่นกัน
• General Training อันนี้จะเหมาะกับคนที่อยากจะไปทำงาน หรือย้ายถิ่นฐาน หรือไปเรียนในระดับที่ต่ำกว่าปริญญาตรี

ตอนนั้นผมเล็งไปที่การเรียนต่อ ก็เลยมุ่งเป้าไปที่ Academic เลยครับ

การเตรียมตัวของผมก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากครับ อาศัยลูกทุ่งๆ หน่อยๆ คือ

1. หาหนังสือเก่าๆ ของเพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ที่เคยสอบมาแล้ว มาลองเปิดๆ ดูว่าหน้าตาข้อสอบมันเป็นยังไง
2. ลองทำข้อสอบตัวอย่าง ที่พอจะหาได้ในเน็ต (แต่ไม่กล้าบอกแหล่ง ฮ่าๆ) จับเวลาทำจริงๆ จังๆ เลย
3. ฝึกฟัง จากพวกคลิปภาษาอังกฤษเยอะๆ ซีรีส์ฝรั่งแบบไม่เปิดซับไทยบ้าง เปิดบ้าง สลับกันไป
4. ฝึกอ่าน บทความภาษาอังกฤษ พยายามจับใจความหลักๆ ให้ได้
5. ฝึกเขียน นี่แหละยากสุดสำหรับผม พยายามเขียนตามโครงสร้างที่เค้าแนะนำกัน แล้วก็ให้เพื่อนช่วยๆ ดู
6. ฝึกพูด อันนี้ก็อาศัยพูดกับตัวเองหน้ากระจกบ้าง อัดเสียงตัวเองฟังบ้าง เขินๆ หน่อย แต่ก็ต้องทำ

ช่วงเตรียมตัวนี่เหนื่อยเอาเรื่องเลยครับ ท้อบ้างอะไรบ้าง แต่ก็พยายามฮึดสู้ เพราะมีเป้าหมายรออยู่

วันสอบจริง และสิ่งที่ได้เรียนรู้

พอถึงวันสอบจริงนี่ตื่นเต้นมากครับ บอกเลยว่าคืนก่อนสอบแทบไม่ได้นอน ฮ่าๆๆ บรรยากาศในห้องสอบก็ค่อนข้างเคร่งเครียด ทุกคนตั้งใจกันสุดๆ

ตอนสอบ Listening นี่หูต้องไวมาก สมาธิต้องดีสุดๆ เพราะถ้าหลุดไปนิดเดียวคือตามไม่ทันเลย Reading ก็แข่งกับเวลา บทความยาวมาก คำศัพท์ก็มีทั้งที่รู้และไม่รู้ปนๆ กันไป Writing ก็พยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่เตรียมตัวมา ส่วน Speaking นี่เป็นอะไรที่ผมกังวลสุดๆ เพราะต้องพูดกับ Examiner ตัวต่อตัวเลย แต่พอได้พูดจริงๆ เค้าก็เป็นกันเองดีครับ พยายามชวนคุย ทำให้เราผ่อนคลายขึ้นเยอะ

หลังจากสอบเสร็จออกมานี่โล่งมากครับ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำมันเต็มที่แล้ว

สรุปแล้ว สอบ ielts คือ อะไร สำหรับผม

สำหรับผมนะ หลังจากผ่านประสบการณ์ตรงมาแล้ว “สอบ ielts คือ อะไร” มันไม่ใช่แค่การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แต่มันคือ บททดสอบความมุ่งมั่นตั้งใจ ของเรา มันคือ ประตูบานหนึ่ง ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้ไปเจอโลกที่กว้างขึ้น และมันก็คือ เครื่องมือ ที่ทำให้เรารู้ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองในด้านไหนบ้าง

ถึงแม้ว่ามันจะดูยาก ดูน่ากลัว แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี มีความตั้งใจจริง ผมว่าทุกคนก็ผ่านมันไปได้ครับ สู้ๆ นะครับใครที่กำลังเตรียมตัวอยู่!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ