สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเลย กับเรื่องการฝึกภาษาอังกฤษผ่านการเล่นเกมเนี่ยแหละ หลายคนอาจจะคิดว่าเล่นเกมมันก็ได้แต่ความสนุกอย่างเดียวสิ จะเอามาเรียนรู้ได้ยังไง แต่เชื่อผมเหอะ มันเวิร์คจริง! ผมลองมากับตัวเองแล้ว
จุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกภาษาผ่านเกม
คือเรื่องของเรื่องมันเป็นงี้ครับ สมัยก่อนนู้นนน ผมก็เป็นคนนึงที่ภาษาอังกฤษนี่กระท่อนกระแท่นมาก เรียนในห้องก็ง่วง อ่านหนังสือแกรมม่าก็ปวดหัว พยายามท่องศัพท์เป็นหน้าๆ สุดท้ายก็ลืมอยู่ดี จนรู้สึกท้อใจไปเลยว่าชาตินี้คงพูดอังกฤษไม่ได้เรื่องแน่ๆ

แต่ผมดันเป็นคนชอบเล่นเกมไงครับ เล่นมาตั้งแต่เด็กๆ เล่นมันทุกแนว แล้วมีอยู่วันนึงก็คิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะ! เกมที่เราเล่นๆ กันเนี่ย ส่วนใหญ่มันก็เป็นภาษาอังกฤษนี่หว่า ทำไมเราไม่ลองใช้มันให้เป็นประโยชน์ดูล่ะ แทนที่จะกดข้ามๆ บทสนทนาไปอย่างเดียว ลองตั้งใจอ่านมันดูหน่อยจะเป็นไรไป
ลงมือปฏิบัติจริง: จากเกมเมอร์สู่ผู้เรียนภาษา
ขั้นแรกเลยนะ ผมเริ่มจากการเลือกเกมก่อนเลยครับ ไม่ใช่ว่าเกมอะไรก็ได้นะ ผมลองผิดลองถูกมาเยอะ
- เกมแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ: อันนี้แรกๆ คิดว่าดี ได้ศัพท์เท่ๆ แต่เอาเข้าจริง บทพูดมันน้อย เน้นตูมตามอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ศัพท์ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่
- เกมกีฬา: อันนี้ก็ได้ศัพท์เฉพาะทางไปเลย ซึ่งถ้าใครชอบก็ดีไป แต่ผมอยากได้กว้างๆ กว่านั้น
- เกม RPG หรือเกมเน้นเนื้อเรื่อง (Story-driven): อันนี้แหละ! คือคำตอบของผมเลย เกมพวกนี้มันจะมีบทสนทนาเยอะมาก มีเนื้อเรื่องให้อ่าน มีตัวละครให้ทำความรู้จัก ทำให้เราเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ
พอเลือกเกมได้แล้ว ผมก็เริ่มปฏิบัติการดังนี้ครับ:
- เปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ: สำคัญมาก! ช่วงแรกๆ อาจจะฟังไม่ออกทั้งหมด แต่การได้เห็นตัวอักษรมันช่วยให้เราเชื่อมโยงเสียงกับคำได้ดีขึ้น
- เจอศัพท์ไม่รู้ ก็จด: ผมจะมีสมุดเล่มเล็กๆ ติดตัวไว้เลยครับ หรือไม่ก็ใช้แอปในมือถือนี่แหละ เจอคำไหนที่ไม่เคยเห็น หรือเห็นบ่อยๆ แต่ไม่รู้ความหมาย ก็กดหยุดเกม (Pause) แล้วจดไว้ก่อนเลย พร้อมกับประโยคตัวอย่างที่มันอยู่ในเกมด้วยนะ จะได้เข้าใจบริบท
- พยายามเดาความหมายจากสถานการณ์: ก่อนที่จะเปิดดิกชันนารี ผมจะลองเดาความหมายของคำนั้นๆ จากเนื้อเรื่อง หรือจากท่าทางของตัวละครดูก่อน มันช่วยฝึกทักษะการตีความได้ดีเลย
- ฟังแล้วพูดตาม: ถ้ามีประโยคไหนที่ตัวละครพูดแล้วเราชอบ หรือคิดว่ามันน่าเอาไปใช้ได้ ผมจะลองพูดตามเลยครับ ออกเสียงดังๆ ไม่ต้องอายใคร (ก็เล่นอยู่ในห้องคนเดียวนี่นา ฮ่าๆ)
- ไม่รีบร้อน: อันนี้สำคัญมาก ผมจะไม่ตั้งเป้าว่าต้องเล่นให้จบเร็วๆ แต่จะค่อยๆ เล่น ค่อยๆ ซึมซับภาษาไปเรื่อยๆ บางทีฉากเดียวอาจจะใช้เวลานานหน่อย เพราะมัวแต่เปิดดิกชันนารี แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่านะ
อุปสรรคและสิ่งที่ต้องระวัง
แน่นอนว่าการเรียนรู้ด้วยวิธีนี้มันก็มีอุปสรรคอยู่บ้างครับ ไม่ใช่ว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบ
- ความอยากเอาชนะเกม: บางทีติดลมไงครับ อยากรู้เนื้อเรื่องต่อ อยากผ่านด่านไวๆ จนเผลอกดข้ามบทสนทนาไป อันนี้ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าเป้าหมายเราคือเรียนภาษาด้วยนะเฟ้ย!
- ศัพท์เฉพาะทางเกม: บางเกมมันก็จะมีศัพท์เฉพาะของมันเยอะหน่อย เช่น ชื่อท่าไม้ตาย ชื่อไอเท็ม ซึ่งอาจจะไม่ได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน อันนี้ก็ต้องเลือกๆ เอาหน่อยครับ
- ความท้อแท้: ช่วงแรกๆ ที่ยังไม่คล่อง อาจจะรู้สึกว่ามันช้าจังเลย เปิดดิกบ่อยจังเลย แต่อย่าเพิ่งท้อครับ ให้คิดซะว่ามันคือการลงทุนเพื่ออนาคต
ผลลัพธ์ที่ได้: มันคุ้มค่าจริงๆ นะ!
หลังจากที่ผมลองใช้วิธีนี้มาสักพักใหญ่ๆ บอกเลยว่ามันเห็นผลชัดเจนมากครับ
- คลังศัพท์เพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว: จากที่เคยรู้ศัพท์แบบงูๆ ปลาๆ ตอนนี้ผมรู้จักศัพท์เยอะขึ้นมาก แถมยังจำได้แม่นด้วย เพราะมันมาจากการใช้งานจริงในเกม ไม่ใช่การท่องจำเฉยๆ
- ทักษะการฟังดีขึ้น: การได้ยินเสียงตัวละครพูดภาษาอังกฤษบ่อยๆ มันช่วยให้หูเราคุ้นเคยกับสำเนียงและความเร็วในการพูดมากขึ้น
- เข้าใจแกรมม่าแบบธรรมชาติ: ผมไม่ได้มานั่งท่องโครงสร้างประโยคอะไรเลยนะ แต่การอ่านบทสนทนาในเกมบ่อยๆ มันทำให้เราซึมซับรูปแบบประโยคไปเองโดยอัตโนมัติ
- กล้าพูดมากขึ้น: พอเราเริ่มเข้าใจ เริ่มมีศัพท์ในหัว มันก็ทำให้เรามั่นใจที่จะลองพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น แม้จะยังไม่เป๊ะ แต่ก็กล้าที่จะสื่อสาร
- และที่สำคัญที่สุดคือ มันสนุก!: การเรียนรู้มันไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไป การได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ มันทำให้เรามีแรงจูงใจที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ
สรุปแล้วนะครับ สำหรับผม การเรียนภาษาอังกฤษผ่านการเล่นเกมมันเป็นวิธีที่เวิร์คมากๆ อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าใครที่เป็นคอเกมอยู่แล้ว ผมว่าลองเอาวิธีนี้ไปปรับใช้ดู ไม่เสียหายแน่นอนครับ อย่างน้อยก็ได้ทั้งความสนุกและได้ทั้งความรู้ควบคู่กันไป ดีจะตายไปเนอะ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments