สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย กับการเอาเกมมาใช้สอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ที่ผมลองทำดูแล้วมันเวิร์คมากๆ เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ

คือเรื่องมันเริ่มมาจากที่ผมสังเกตเห็นว่าเด็กๆ หลายคนเวลาเรียนภาษาอังกฤษแบบเดิมๆ ที่เน้นท่องศัพท์ อ่านตำรา มันดูน่าเบื่อ หน้าตานี่บ่งบอกเลยว่าไม่อยากเรียน ผมก็เลยคิดว่า เอ๊ะ…จะทำยังไงดีให้การเรียนมันสนุกขึ้นมาได้บ้างนะ ก็นั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวันเลยครับ

จุดเริ่มต้นของการลองผิดลองถูก

ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เริ่มง่ายๆ เลย ลองหาเกมคำศัพท์ง่ายๆ ที่มีขายตามร้านหนังสือมาลองเล่นกับเด็กๆ ดูก่อน พวกเกมจับคู่ภาพกับคำศัพท์อะไรแบบนี้ครับ ผลคือเด็กๆ ก็ดูตื่นเต้นขึ้นมานิดนึงนะ ดีกว่านั่งมองกระดานเฉยๆ แต่ปัญหาคือ พอเล่นไปสักพัก มันก็เริ่มซ้ำๆ เดิมๆ เด็กบางคนก็เริ่มเบื่ออีกแล้ว

ผมก็เลยมานั่งคิดต่อ ว่าจะทำยังไงดี? ผมเริ่มมองไปที่เกมที่เด็กๆ เขาเล่นกันจริงๆ ในชีวิตประจำวันเลยครับ พวกเกมวิ่งไล่จับ เกมทายคำ หรือแม้แต่เกมกระดานง่ายๆ ที่เราเคยเล่นตอนเด็กๆ ผมก็ลองเอามาปรับใช้ดู

ขั้นตอนที่ผมลงมือทำจริงๆ

ทีนี้ผมจะเล่าเป็นขั้นเป็นตอนที่ผมทำเลยนะครับ

• ตั้งเป้าหมายก่อน: ก่อนจะเลือกเกม ผมจะดูก่อนว่าคาบเรียนนี้ ผมอยากให้เด็กได้อะไร เช่น อยากให้จำคำศัพท์หมวดสัตว์ได้ อยากให้พูดประโยคคำสั่งง่ายๆ ได้ หรืออยากให้ฝึกการฟัง
• เลือกเกมให้เข้ากับเนื้อหา: พอมีเป้าหมายแล้ว ผมก็เริ่มมองหาเกมที่มันจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เช่น
  • ถ้าอยากสอนคำศัพท์ ผมก็อาจจะใช้เกมบิงโกคำศัพท์ (ทำเองง่ายๆ เลยครับ เขียนคำศัพท์ลงกระดาษ) หรือเกมทายคำจากภาพ
  • ถ้าอยากสอนประโยคคำสั่ง ก็เล่น “Simon Says” (หรือ “ครูสั่งว่า…”) อันนี้คลาสสิกแต่ได้ผลเสมอ
  • ถ้าอยากฝึกการสนทนา อาจจะเป็นเกมสวมบทบาทง่ายๆ เช่น สั่งอาหาร ซื้อของ
• เตรียมอุปกรณ์: บางเกมก็ไม่ต้องใช้อะไรมาก แต่บางเกมก็ต้องมีบัตรคำ รูปภาพ หรือลูกเต๋า ผมก็จะเตรียมพวกนี้ไว้ให้พร้อม เคล็ดลับของผมคือ ทำให้มันดูน่าสนใจ สีสันสดใสหน่อย เด็กๆ จะชอบมาก
• อธิบายกติกาให้ชัดเจน: อันนี้สำคัญมากครับ! ก่อนเริ่มเล่น ผมจะอธิบายกติกาให้เด็กๆ เข้าใจตรงกันก่อนเลย ว่าต้องทำอะไรยังไง ใครชนะได้อะไร (อาจจะเป็นแค่คำชม หรือดาวเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ) ถ้ากติกาไม่ชัดเจนนี่เละแน่นอนครับ จากประสบการณ์ตรง ฮ่าๆๆ
• ลงมือเล่นจริง และคอยดู: พอเริ่มเล่น ผมจะไม่ใช่แค่ปล่อยให้เด็กเล่นกันเองนะครับ ผมจะคอยดู คอยกระตุ้น คอยช่วยถ้าเด็กคนไหนตามไม่ทัน แล้วก็สอดแทรกภาษาอังกฤษเข้าไปตลอด เช่น “Good job!”, “Try again!”, “Whose turn is it?”
• สรุปหลังเกม: พอเล่นเกมจบ ผมจะใช้เวลาสั้นๆ สรุปว่าวันนี้เราได้เรียนรู้อะไรจากเกมบ้าง ทบทวนคำศัพท์หรือประโยคที่ใช้ไปในเกมอีกครั้ง

สิ่งที่ผมค้นพบและอยากบอกต่อ

หลังจากที่ผมลองใช้วิธีนี้มาสักพักใหญ่ๆ นะครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ บรรยากาศในห้องเรียนมันดีขึ้นเยอะมาก เด็กๆ ดูสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น จากที่เคยนั่งเงียบๆ ก็กล้าพูด กล้าตอบ กล้าแสดงออกมากขึ้นเยอะเลยครับ

แล้วที่สำคัญคือ ผมรู้สึกว่าเด็กๆ จำคำศัพท์หรือโครงสร้างประโยคได้ดีขึ้นด้วยนะ เพราะเขาได้ใช้จริงผ่านการเล่น มันไม่ใช่แค่การท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองอีกต่อไป

แน่นอนว่ามันก็มีบ้างที่บางเกมเตรียมไปแล้วเด็กไม่ค่อยอิน หรือบางทีก็เล่นกันสนุกเกินไปจนลืมสาระไปบ้าง ฮ่าๆๆ ผมก็ต้องคอยปรับ คอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ต้องดูเด็กของเราเป็นหลักว่าเขาชอบแบบไหน

ผมว่าการใช้เกมเนี่ย มันไม่ใช่แค่เรื่องของการเล่นสนุกอย่างเดียวนะครับ แต่มันคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เด็กๆ รู้สึกผ่อนคลาย ไม่กลัวที่จะพูดผิด และอยากมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้มากขึ้นจริงๆ

ใครที่เป็นครูหรือผู้ปกครองที่อยากให้เด็กๆ สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูได้นะครับ ไม่ต้องเริ่มจากอะไรที่มันซับซ้อนเลยครับ เริ่มจากเกมง่ายๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีนี่แหละครับ เหนื่อยหน่อยตอนเตรียม แต่พอเห็นเด็กๆ ได้ทั้งความสนุกและความรู้ไปด้วย มันคุ้มค่าจริงๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ