สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องการสอนเด็กๆ ให้ออกเสียงภาษาอังกฤษให้มันเป๊ะๆ หน่อย ตอนแรกๆ ที่เริ่มนะ ผมก็คิดว่ามันไม่น่าจะยากอะไรมากมาย ก็แค่เปิดยูทูบให้เด็กดู สอนตามหนังสือไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เองแหละ แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห… มันไม่ง่ายเหมือนที่คิดเลยว่ะครับ
จุดเริ่มต้นและความเข้าใจผิดๆ

ผมเริ่มจากไปสรรหาตำรานู่นนี่นั่นมาอ่านเลยนะ พวกเทคนิคการสอน โฟนิกส์เอย อะไรเอย จัดเต็ม! คิดในใจว่าเดี๋ยวลูกศิษย์เราต้องออกเสียงเป๊ะเวอร์เหมือนเจ้าของภาษาแน่ๆ ปรากฏว่าพอเอาไปใช้จริง เด็กๆ มันทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ บางคนก็เขิน ไม่กล้าออกเสียงตาม กลัวผิด บางคนก็ออกเสียงเพี้ยนไปคนละทิศคนละทาง ไอ้ที่เราพยายามอธิบายเรื่องการวางลิ้น การทำปากกลมปากแบน เด็กมันไม่เก็ทเลยสักนิด ตอนนั้นท้อเหมือนกันนะ คิดว่าหรือเรามันไม่มีหัวด้านนี้วะ
ลงมือปฏิบัติจริง ปรับเปลี่ยนวิธีไปเรื่อย
หลังจากเฟลไปพักใหญ่ ผมก็มานั่งคิดใหม่ ทำใหม่ ลองสังเกตเด็กๆ มากขึ้น ว่าจริงๆ แล้วธรรมชาติของเขาเป็นยังไง เขาเรียนรู้ผ่านอะไรได้ดีที่สุด
- เลิกยึดติดตำรา: อันดับแรกเลย ผมโยนตำราทิ้งไปก่อน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับเด็กทุกคน หรือไม่เหมาะกับสไตล์การสอนแบบบ้านๆ ของผม ผมเริ่มจากการฟังเยอะๆ ก่อน ให้เด็กๆ คุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษจริงๆ ผ่านเพลง การ์ตูน นิทานง่ายๆ ที่เน้นเสียงซ้ำๆ ย้ำๆ
- ทำให้เป็นเรื่องสนุก: เด็กกับการเล่นเป็นของคู่กัน ผมเลยเริ่มเอาเกมเข้ามาผสมโรง เช่น เกมทายคำศัพท์จากเสียง เกมทำท่าทางตามเสียงที่ได้ยิน หรือแม้แต่การแข่งกันทำปากเลียนแบบเจ้าของภาษาในคลิป ใครทำได้เหมือนสุดรับรางวัลไปเลย (รางวัลก็ขนมเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ เด็กๆ ชอบจะตาย)
- เน้นทีละเสียง และใช้การเปรียบเทียบ: แทนที่จะสอนทีเดียวหลายๆ เสียง หรือสอนเป็นคำยาวๆ ผมเริ่มจากเสียงสั้นๆ ง่ายๆ ก่อนเลย เช่น เสียง /b/, /p/, /t/, /d/ แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มความยาก ผมพบว่าการใช้เสียงในภาษาไทยมาเทียบเคียง หรือการใช้มือประกอบท่าทางเนี่ย ช่วยได้เยอะมาก อย่างเสียง /th/ ที่เด็กไทยชอบออกเป็น /ด/ หรือ /ท/ ผมก็จะให้เขาแลบลิ้นออกมานิดนึง กัดเบาๆ แล้วพ่นลม เด็กๆ จะเห็นภาพชัดขึ้นเยอะ
- การทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่น่าเบื่อ: เรื่องการออกเสียงนี่ต้องอาศัยความเคยชินจริงๆ ครับ ต้องทำซ้ำๆ บ่อยๆ แต่ก็ต้องหาวิธีที่มันไม่ซ้ำซากจำเจ อาจจะเปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยๆ วันนี้ร้องเพลง พรุ่งนี้เล่นเกม อีกวันเล่านิทานที่เน้นเสียงนั้นๆ
- ดูปาก ดูลิ้น และให้กำลังใจ: ผมจะทำให้เด็กดูเลยว่าเวลาออกเสียงนี้ ปากเราเป็นยังไง ลิ้นอยู่ตรงไหน แล้วก็ให้เขาลองทำตามหน้ากระจกเล็กๆ ที่ผมเตรียมไว้ให้ พอเขาทำได้นิดนึงก็ต้องชม ต้องให้กำลังใจเยอะๆ ครับ เด็กๆ จะมีแรงฮึดขึ้นเยอะเลย ส่วนใครที่ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ดุไม่ว่า ค่อยๆ สอน ค่อยๆ ปรับกันไป
ผลลัพธ์ที่ได้เห็นจริงๆ
หลังจากลองผิดลองถูกมาสักพักใหญ่ๆ นะครับ สิ่งที่ผมเห็นชัดเจนเลยคือ เด็กๆ กล้าพูดมากขึ้น ไม่กลัวผิดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้บางคนจะยังออกเสียงไม่เป๊ะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็พยายาม และที่สำคัญคือเขาสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลยครับ จากที่เคยทำหน้างอเวลาถึงชั่วโมงภาษาอังกฤษ ตอนนี้กลายเป็นว่าตั้งหน้าตั้งตารอ ผมว่านี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว การสร้างทัศนคติที่ดีกับการเรียนรู้
บทสรุปจากประสบการณ์จริง
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าการสอนเด็กออกเสียงภาษาอังกฤษมันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ เราต้องสังเกตเด็กของเราให้ดีๆ ต้องมีความอดทน แล้วก็ต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการสอนอยู่เสมอ อย่าไปยึดติดกับทฤษฎีในตำรามากเกินไป บางทีวิธีง่ายๆ บ้านๆ นี่แหละที่มันเวิร์คกับเด็กๆ ที่สุด ที่สำคัญคือทำให้มันเป็นเรื่องสนุก แล้วเด็กๆ เขาจะเปิดใจเรียนรู้เองครับ ผมเองก็ยังเรียนรู้และปรับปรุงวิธีการสอนของตัวเองอยู่ทุกวันเหมือนกันครับ ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กันเนอะ ใครมีเทคนิคอะไรดีๆ ก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments