Palfish ดีไหม ราคา? อ่านรีวิวจากคนใช้จริงก่อนตัดสินใจเรียน
Palfish ดีไหม ราคา? อ่านรีวิวจากคนใช้จริงก่อนตัดสินใจเรียน
Share:

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ลองให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษกับ PalFish ดูนะครับ เผื่อใครกำลังมองหาหรือตัดสินใจอยู่ว่า palfish ดีไหม ราคา เป็นยังไง คุ้มค่ารึเปล่า ก็หวังว่าเรื่องที่ผมจะเล่าเนี่ย พอจะเป็นแนวทางให้ได้บ้างนะครับ

จุดเริ่มต้นที่มองหาคลาสเรียนออนไลน์ให้ลูก

เรื่องของเรื่องคือลูกชายผมกำลังจะเข้า ป.1 แล้วผมกับภรรยาก็มองๆ หาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษให้เขา คืออยากให้เขาได้คุ้นเคยกับภาษาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่อยากให้เขากลัวภาษาอังกฤษน่ะครับ ตอนแรกก็ดูพวกสถาบันสอนภาษาใกล้บ้านไว้บ้าง แต่ด้วยความที่งานผมกับภรรยาก็ไม่ค่อยแน่นอนเรื่องเวลาเลิกงาน บางทีไปรับส่งก็อาจจะไม่สะดวก บวกกับช่วงนั้นก็มีเรื่องโรคระบาดเข้ามาด้วย เลยเริ่มมองหาตัวเลือกที่เป็นคลาสเรียนออนไลน์แทน

Palfish ดีไหม ราคา? อ่านรีวิวจากคนใช้จริงก่อนตัดสินใจเรียน

ทำไมถึงมาจบที่ PalFish

ผมก็ลองค้นหาในเน็ตนี่แหละครับ พิมพ์หาไปเรื่อย “เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ สำหรับเด็ก” อะไรทำนองนี้ ก็เจอหลายเจ้าเลยครับ แต่ที่เห็นผ่านตาบ่อยๆ แล้วก็มีคนพูดถึงอยู่บ้างก็คือ PalFish เนี่ยแหละครับ ตอนแรกก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันทีนะ ก็เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บเขาบ้าง อ่านรีวิวจากคนอื่นบ้าง เทียบกับเจ้าอื่นๆ ไปด้วย

สิ่งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจ PalFish จริงจังก็คือรูปแบบการสอนของเขาที่เน้นให้เด็กสนุก มีเกม มีเพลง มีกิจกรรม แล้วครูผู้สอนก็เป็นครูต่างชาติเจ้าของภาษาเลย ผมว่ามันน่าจะช่วยให้ลูกผมได้ซึมซับสำเนียงที่ถูกต้อง แล้วก็กล้าที่จะพูดมากขึ้น

ประสบการณ์ทดลองเรียน และการตัดสินใจเรื่องราคา

พอเริ่มสนใจ ผมก็ลองโหลดแอปพลิเคชันของ PalFish มาดูครับ การใช้งานแอปก็ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ มีให้ลงทะเบียนแล้วก็มีคลาสทดลองเรียนฟรีด้วย ผมก็เลยไม่รอช้า ลองจองคลาสทดลองเรียนให้ลูกชายดูเลย ขั้นตอนการจองก็ง่ายดีครับ เลือกวันเวลาที่สะดวกได้

ถึงวันเรียนจริง ลูกชายผมก็ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะเป็นครั้งแรกที่เรียนกับครูต่างชาติผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ครูผู้สอนก็ดูเป็นมิตรดีครับ ชวนคุยเก่ง พยายามทำให้ลูกผมรู้สึกผ่อนคลาย มีใช้ตุ๊กตามือบ้าง มีเกมง่ายๆ ให้เล่นบ้าง ลูกผมจากตอนแรกที่เกร็งๆ ก็เริ่มยิ้ม เริ่มโต้ตอบได้มากขึ้น ถึงจะยังพูดเป็นคำๆ อยู่ก็เถอะ แต่เห็นเขาดูสนุก ผมก็โอเคแล้วล่ะครับ

หลังจบคลาสทดลองเรียน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ PalFish ติดต่อมาสอบถามผลการเรียน แล้วก็แนะนำคอร์สเรียนต่างๆ ให้ เรื่องราคา ตอนแรกผมก็ว่าแอบสูงเหมือนกันนะถ้าเทียบเป็นครั้งๆ แต่พอเขาอธิบายรายละเอียดคอร์สแบบระยะยาว พร้อมส่วนลดต่างๆ ผมลองคำนวณดูแล้ว ถ้าเทียบกับการต้องเสียค่าเดินทางพาลูกไปเรียนข้างนอก บวกกับค่าเรียนตามสถาบัน ผมว่ามันก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้นะ คือมันสะดวกกว่ากันเยอะ เรียนที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดด้วย

สุดท้ายผมกับภรรยาก็ตัดสินใจลงคอร์สระยะกลางให้ลูกไปก่อน ลองดูสักพักว่าเขาจะชอบต่อเนื่องไหม

เรียนจริงจังแล้วเป็นยังไงบ้าง

หลังจากเริ่มเรียนจริงจังไปได้สักพัก สิ่งที่ผมเห็นชัดๆ เลยคือลูกชายผมดูกระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นนะครับ เขาจะรอคอยถึงเวลาเรียน พอเรียนเสร็จก็จะมาเล่าให้ฟังว่าวันนี้เรียนอะไรไปบ้าง ได้ร้องเพลงอะไรใหม่ๆ มาบ้าง

Palfish ดีไหม ราคา? อ่านรีวิวจากคนใช้จริงก่อนตัดสินใจเรียน
  • คุณครู: ส่วนใหญ่ครูที่เจอมาก็โอเคนะครับ มีพลังในการสอนดี ชวนเด็กคุยเก่ง แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่อาจจะเจ ครูที่อาจจะยังไม่ค่อยคลิกกับลูกเราเท่าไหร่ แต่ทาง PalFish เขาก็มีระบบให้เราเลือกครู หรือแจ้งเปลี่ยนครูได้อยู่ครับ
  • เนื้อหา: บทเรียนก็ดูมีสีสันสดใสดีครับ เหมาะกับเด็กๆ มีเกม มีเพลง มีเรื่องราวสั้นๆ ประกอบการเรียน ทำให้ไม่น่าเบื่อ
  • ความสะดวก: อันนี้คือข้อดีหลักๆ เลยครับ เรียนจากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต แค่มีแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ก็เรียนได้แล้ว ประหยัดเวลาเดินทางไปได้เยอะมาก
  • ราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพ: โดยรวมผมว่า ราคา กับสิ่งที่ลูกผมได้รับ ถือว่าสมเหตุสมผลนะครับ คือเขาได้เรียนกับเจ้าของภาษาจริงๆ ได้ฝึกพูดฝึกฟังทุกครั้งที่เรียน แล้วก็เห็นพัฒนาการของเขาที่ดีขึ้น

แน่นอนว่ามันก็มีข้อที่ต้องพิจารณาอยู่บ้างเหมือนกันครับ อย่างเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถ้าวันไหนเน็ตบ้านเราไม่ค่อยเสถียร ก็อาจจะมีติดขัดบ้างนิดหน่อย หรือบางทีลูกก็อาจจะสมาธิหลุดบ้างเป็นธรรมดาของเด็กๆ ที่เรียนผ่านหน้าจอ แต่โดยรวมแล้วผมว่ามันก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่ช่วยเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้ลูกได้ดีทีเดียวครับ

สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว

ถ้าถามผมว่า palfish ดีไหม สำหรับครอบครัวผม ผมว่ามันค่อนข้างตอบโจทย์นะครับ โดยเฉพาะเรื่องความสะดวก แล้วก็การที่ลูกได้เรียนกับครูต่างชาติจริงๆ ส่วนเรื่อง ราคา ก็อย่างที่บอกไปครับ ถ้ามองภาพรวมแล้วเทียบกับประโยชน์ที่ได้ ผมว่ามันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเพื่อให้ลูกเราได้มีโอกาสเรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่สนุกและเข้าถึงง่ายครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ประสบการณ์ของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไปนะครับ ทางที่ดีที่สุดคือลองให้ลูกได้ทดลองเรียนดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้ครับ หวังว่าข้อมูลที่ผมแชร์ไปวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน