สำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ การเริ่มต้นอย่างถูกต้องจะสร้างรากฐานที่แข็งแรง โดยควรเรียงลำดับความสำคัญดังนี้
1. เริ่มต้นด้วยการออกเสียงพื้นฐาน (Phonics)
เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสียงภาษาอังกฤษ สำคัญที่สุดในการฟังและพูด ฝึกฝนผ่าน:
- วีดีโอสอน Phonics บน Youtube (ค้นหา “English Phonics for Beginners”)
- แอพพลิเคชั่นช่วยฝึกออกเสียง เช่น Duolingo หรือ Elsa Speak
2. ท่องจำคำศัพท์จำเป็นรอบตัว
ไม่ต้องเริ่มจากแกรมม่ารยาก! โฟกัสที่คำศัพท์ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน 200-300 คำแรก เช่น คำทักทาย สี ตัวเลข ของใช้ในบ้าน อาหาร ใช้เทคนิค:
- บัตรคำ (Flashcard) ตัวช่วยคลาสสิกที่มีประสิทธิภาพ
- แอพท่องศัพท์แบบเป็นธีม/รูปภาพ เช่น Memrise
3. เรียนโครงสร้างประโยคง่ายๆ
หลังมีคลังคำศัพท์พอสมควร ให้รู้จักการนำมาประกอบเป็นประโยคง่ายๆ เช่น Subject + Verb + Object (I eat an apple.) เริ่มจาก:
- Present Simple Tense ก่อน
- การใช้ Verb to be (is, am, are)
- การใช้ Articles พื้นฐาน (a, an, the)
4. ฝึกฟัง-พูดตั้งแต่เริ่มต้น แม้จะยังไม่เก่ง
อย่ากลัวที่จะพูดผิด ใช้เครื่องมือเหล่านี้:
- หุ้นส่วนฝึกภาษา (Language Exchange Partner)
- คอร์สเรียนออนไลน์แบบตัวต่อตัวที่เน้นการสนทนา เช่น 51Talk Thailand ช่วยให้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาได้ทันที
- ร้องตามเพลงภาษาอังกฤษง่ายๆ
5. เลือกใช้แหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ
ความต่อเนื่องคือปัจจัยแห่งความสำเร็จ เลือกแหล่งข้อมูลที่เข้าใจง่าย สร้างแรงจูงใจ และเหมาะกับผู้เริ่มต้น เช่น:
- ตำราหรือเว็บไซต์ที่ระบุว่า “สำหรับผู้เริ่มต้น (Beginner)”
- ช่อง YouTube สำหรับสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานโดยเฉพาะ
- แพลตฟอร์มเรียนที่ปรับระดับตามผู้เรียนได้ เช่น 51Talk Thailand โดยอาจเริ่มด้วยบทเรียนสั้นๆ วันละ 25 นาทีเพื่อสร้างนิสัย
เน้นย้ำ: การฝึกฝนสม่ำเสมอวันละนิด ดีกว่าทำเยอะแต่ไม่ต่อเนื่อง เริ่มทีละขั้นตอน อย่าหักโหม และที่สำคัญคือ “อย่ากลัวความผิดพลาด” ใช้เครื่องมืออย่าง 51Talk Thailand เพื่อให้การฝึกสนทนาภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรก
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments