ielts มี กี่ ระดับจริงหรือ มาดูคำตอบและรายละเอียดกัน
ielts มี กี่ ระดับจริงหรือ มาดูคำตอบและรายละเอียดกัน
Share:

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนิดหน่อย ตอนที่ผมเริ่มสงสัยว่าไอเอลส์เนี่ยมันมีกี่ระดับกันแน่ คือตอนแรกๆ เนี่ย ผมก็งงๆ นะครับ ได้ยินคนพูดถึงบ่อยๆ ว่าจะไปสอบไอเอลส์ เอาคะแนนไอเอลส์ แต่ไม่เคยเข้าใจจริงๆ จังๆ ว่ามันวัดผลกันยังไง มีกี่ขั้นกี่ตอนกันแน่

ด้วยความอยากรู้ ผมก็เลยเริ่มจากง่ายๆ เลยครับ ลองไปถามเพื่อนๆ ที่เคยไปสอบมาก่อน บางคนก็บอกว่ามันเป็นคะแนนรวมๆ บางคนก็บอกว่ามันมีแยกเป็นทักษะ ตอนนั้นข้อมูลในหัวผมนี่ตีกันไปหมด เลยตัดสินใจว่า เอาวะ! ลองไปค้นคว้าดูด้วยตัวเองดีกว่า จะได้รู้เรื่องจริงๆ ซะที

ielts มี กี่ ระดับจริงหรือ มาดูคำตอบและรายละเอียดกัน

ผมก็เริ่มจากการเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วก็ลองเสิร์ชหาข้อมูลดูเลยครับ พิมพ์ไปตรงๆ เลยว่า “IELTS ระดับ” อะไรทำนองนี้ สิ่งที่ผมเจอตอนแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ มีข้อมูลเยอะแยะไปหมด แต่พอค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละนิด ผมก็เริ่มจับทางได้ว่า อ๋อ! มันไม่ใช่การแบ่งเป็นระดับ 1 2 3 แบบที่เราคุ้นเคยกันในบางการสอบนะ แต่มันเป็นระบบที่เรียกว่า “แบนด์” (Band Score)

แล้วไอ้แบนด์เนี่ยมันคืออะไร?

พอผมเริ่มเจาะลึกลงไปในเรื่องของ “แบนด์” เนี่ย ก็เลยได้รู้ว่าคะแนน IELTS เนี่ยมันจะออกมาเป็นช่วงคะแนน ตั้งแต่ 0 ถึง 9 เลยครับ ซึ่งแต่ละแบนด์มันก็จะมีความหมายของมันอยู่ ผมจะลองสรุปแบบบ้านๆ ตามที่ผมเข้าใจมานะครับ

  • แบนด์ 9 (Expert user): อันนี้คือระดับเทพเลยครับ ใช้ภาษาอังกฤษได้แบบคล่องแคล่ว ถูกต้องเป๊ะเว่อร์ เข้าใจทุกอย่าง เหมือนเจ้าของภาษาเลยก็ว่าได้
  • แบนด์ 8 (Very good user): ก็ยังถือว่าเก่งมากๆ ครับ ใช้ภาษาได้ดี มีผิดพลาดน้อยมาก เข้าใจเรื่องซับซ้อนได้สบายๆ
  • แบนด์ 7 (Good user): ระดับนี้ก็ถือว่าดีแล้วครับ ใช้ภาษาได้ดี สื่อสารได้ค่อนข้างราบรื่น อาจจะมีติดขัดบ้างเล็กน้อยในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
  • แบนด์ 6 (Competent user): อันนี้คือระดับที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถสื่อสารในเรื่องทั่วๆ ไปได้ แม้ว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดหรือความไม่เข้าใจอยู่บ้าง
  • แบนด์ 5 (Modest user): ระดับนี้จะเริ่มพอสื่อสารได้ในขอบเขตที่จำกัดครับ อาจจะยังตะกุกตะกักอยู่บ้าง แต่ก็พอจะเอาตัวรอดในเรื่องที่คุ้นเคยได้
  • แบนด์ 4 (Limited user): ความสามารถก็จะจำกัดอยู่แค่ในเรื่องพื้นฐานมากๆ ครับ พูดได้เป็นคำๆ หรือประโยคง่ายๆ มากๆ
  • แบนด์ 3 (Extremely limited user): อันนี้คือเข้าใจแค่คำง่ายๆ หรือวลีสั้นๆ จริงๆ ครับ การสื่อสารลำบากมาก
  • แบนด์ 2 (Intermittent user): แทบจะไม่สามารถสื่อสารได้เลยครับ รู้จักแค่คำศัพท์เดี่ยวๆ ไม่กี่คำ
  • แบนด์ 1 (Non-user): คือไม่สามารถใช้ภาษาได้เลย
  • แบนด์ 0 (Did not attempt the test): อันนี้คือไม่ได้ทำข้อสอบหรือไม่เข้าสอบนั่นเองครับ

หลังจากที่ผมใช้เวลาทำความเข้าใจกับระบบแบนด์ของ IELTS เนี่ย ผมก็ถึงบางอ้อเลยครับว่า อ๋อ ที่เขาทำเป็นแบนด์แบบนี้ มันละเอียดดีนะ มันไม่ได้บอกแค่ว่าสอบผ่านหรือไม่ผ่าน แต่มันบอกได้เลยว่าทักษะภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับไหนกันแน่ ซึ่งมันก็มีประโยชน์มากเวลาที่เราจะเอาคะแนนไปยื่นตามที่ต่างๆ เพราะแต่ละที่เขาก็จะกำหนดเกณฑ์คะแนนแบนด์ที่ต้องการไม่เท่ากัน อย่างเช่น มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะต้องการแบนด์ 6.5 ขึ้นไป หรือบางที่สำหรับการทำงานหรือย้ายถิ่นฐานก็อาจจะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป

ตอนแรกที่ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คิดไปต่างๆ นานา ว่ามันจะซับซ้อนเข้าใจยากหรือเปล่า แต่พอได้ลองลงมือค้นคว้าจริงๆ จังๆ มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ แค่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับมันหน่อยเท่านั้นเอง ประสบการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่า บางทีเรื่องที่เราคิดว่ามันยาก ถ้าเราลองเปิดใจแล้วค่อยๆ ศึกษาไปทีละขั้นตอน มันก็ไม่ได้น่ากลัวเสมอไปครับ

ก็หวังว่าสิ่งที่ผมได้ลองไปค้นคว้าแล้วเอามาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสงสัยเรื่องระดับของ IELTS อยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรหรอกครับ แค่เป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยแล้วก็ลองไปหาคำตอบมาด้วยตัวเองเท่านั้นเองครับผม

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?