ielts speaking รีวิว สอบจริงเป็นไงบ้าง ต้องเตรียมอะไร
ielts speaking รีวิว สอบจริงเป็นไงบ้าง ต้องเตรียมอะไร
Share:

เอาล่ะครับทุกคน วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับการเตรียมตัวสอบ IELTS Speaking ที่เพิ่งผ่านพ้นไป บอกเลยว่าเป็นการเดินทางที่ทั้งเหนื่อยทั้งสนุกปนๆ กันไป

เริ่มยังไงดีล่ะทีนี้

ตอนแรกเลยนะ ผมก็เหมือนหลายๆ คนนั่นแหละ คือรู้ว่าต้องสอบ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน ก็เลยเริ่มจากการหาข้อมูล ดูว่าข้อสอบมันเป็นยังไง มีกี่พาร์ท แต่ละพาร์ทเค้าทดสอบอะไรเราบ้าง พอดูภาพรวมคร่าวๆ แล้วก็คิดในใจ “เออ ไม่น่าจะยากเท่าไหร่ พูดๆ ไปเดี๋ยวก็ได้เองแหละ” คิดง่ายไปหน่อย ฮ่าๆๆ

ielts speaking รีวิว สอบจริงเป็นไงบ้าง ต้องเตรียมอะไร

ช่วงลองผิดลองถูก

พอเริ่มจริงจัง ผมก็เริ่มจากหาหนังสือมาอ่านครับ ไปร้านหนังสือ เลือกมาสองสามเล่มที่เค้าว่าดี ก็มานั่งเปิดๆ ดูตัวอย่างคำถาม คำตอบ พยายามทำความเข้าใจแนวทาง แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกเท่าไหร่

หลังจากนั้นก็ลองพูดกับตัวเองหน้ากระจก อันนี้บอกเลยว่าเขินตัวเองสุดๆ พูดไปก็ขำตัวเองไป รู้สึกแปลกๆ แต่ก็พยายามทำนะ คิดซะว่าเป็นการซ้อมให้ชินปาก

แล้วก็มีอีกวิธีที่หลายคนแนะนำ คืออัดเสียงตัวเองตอนพูด ตอนแรกผมก็ไม่กล้าทำหรอก กลัวฟังเสียงตัวเองแล้วจะท้อ แต่สุดท้ายก็ต้องทำ พอลองอัดแล้วมาฟังเท่านั้นแหละ โอ้โห! อยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งเลย เสียงเราทำไมมันเป็นงี้วะ พูดติดๆ ขัดๆ ใช้คำซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็เอาน่ะ มันคือความจริงที่เราต้องยอมรับ

  • หาหัวข้อตัวอย่างจากในเน็ตนี่แหละครับ พวกคำถาม Part 1 ทั่วไป เรื่องงานอดิเรก เรื่องบ้าน เรื่องครอบครัว
  • Part 2 ที่เป็น Cue Card นี่ตัวดีเลย ต้องจับเวลา พยายามพูดคนเดียวให้ได้ 1-2 นาที แรกๆ ก็ตัน คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ
  • Part 3 ก็จะยากขึ้นมาหน่อย เป็นคำถามที่ต้องแสดงความคิดเห็น ผมก็พยายามตอบให้มันมีเหตุผล

ช่วงนี้ก็มีลองหาเพื่อนคุยภาษาอังกฤษด้วยบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ บางทีเวลาก็ไม่ตรงกันบ้าง เพื่อนก็ไม่ว่างบ้าง ก็เลยเน้นซ้อมคนเดียวเป็นหลักไปก่อน

เทคนิคที่ใช้แล้วรู้สึกว่า “เออ! มันเวิร์ค!”

หลังจากลองมั่วๆ ซั่วๆ มาสักพัก ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าอะไรที่มันเหมาะกับตัวเองบ้าง

อย่างแรกเลยคือ การอัดเสียงแล้วฟังซ้ำๆ อันนี้สำคัญมากจริงๆ พอฟังบ่อยๆ เราจะเริ่มจับจุดอ่อนตัวเองได้ เช่น ชอบพูด “เอ่อ…” “อืม…” บ่อยไปนะ หรือตรงนี้ใช้แกรมม่าผิดนะ สำเนียงตรงนี้ยังไม่ชัดนะ พอเรารู้จุดอ่อน เราก็ค่อยๆ แก้ไขมันไปทีละจุด

สองคือ การหัดคิดเป็นภาษาอังกฤษ เวลาเจอคำถาม ไม่ใช่คิดเป็นไทยแล้วค่อยแปลเป็นอังกฤษ เพราะมันจะไม่ทัน แล้วมันจะฟังดูแปร่งๆ พยายามฝึกคิดเป็นโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษไปเลย อาจจะเริ่มจากประโยคง่ายๆ ก่อนก็ได้ครับ

ielts speaking รีวิว สอบจริงเป็นไงบ้าง ต้องเตรียมอะไร

สามคือ การขยายคำตอบ อันนี้สำคัญมากสำหรับ Part 1 กับ Part 3 อย่าตอบแค่ Yes/No หรือตอบสั้นๆ พยายามให้เหตุผล ยกตัวอย่าง หรือเล่าประสบการณ์สั้นๆ ประกอบไปด้วย มันจะทำให้คำตอบเราดูน่าสนใจมากขึ้น

สี่คือ การหาคลังคำศัพท์ (Vocabulary) ไม่ต้องหรูหราอลังการมากก็ได้ครับ เอาแค่คำที่เราใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน หรือคำที่เกี่ยวกับหัวข้อที่ออกสอบบ่อยๆ แล้วก็พยายามใช้คำพวกนั้นในการฝึกพูด มันจะช่วยให้เราพูดได้คล่องขึ้น ไม่ต้องหยุดคิดคำนาน

ผมก็ทำวนๆ ไปแบบนี้แหละครับ หาคำถามมา -> ลองตอบ -> อัดเสียง -> ฟัง -> แก้ไข -> ลองใหม่ ทำซ้ำๆ จนเริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้น เริ่มพูดได้ลื่นไหลขึ้น จากที่เคยพูดติดๆ ขัดๆ ก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

วันจริงกับการนำไปใช้

ก่อนสอบก็มีตื่นเต้นบ้างเป็นธรรมดาครับ แต่ก็พยายามทำใจให้สบาย คิดซะว่าเราเตรียมตัวมาดีแล้ว ตอนสอบจริงก็พยายามเป็นตัวของตัวเอง พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด มีติดขัดบ้างก็ไม่เป็นไร Examiner เค้าเข้าใจครับ เค้าดูภาพรวมมากกว่า

พอสอบเสร็จก็โล่งเลยครับ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเราก็ได้พยายามเต็มที่แล้วจริงๆ

สรุปส่งท้าย

การเตรียมตัวสอบ IELTS Speaking มันไม่มีทางลัดจริงๆ ครับ มันคือการฝึกฝน ฝึกฝน แล้วก็ฝึกฝน หาเทคนิคที่เข้ากับตัวเองให้เจอ แล้วก็ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ แรกๆ อาจจะท้อบ้าง รู้สึกว่าไม่พัฒนาบ้าง แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะเห็นผลเอง

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!

ielts speaking รีวิว สอบจริงเป็นไงบ้าง ต้องเตรียมอะไร

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?