สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมกับเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหู หรือบางคนก็กำลังคลุกคลีอยู่กับมัน นั่นก็คือ ielts คือ อะไรกันแน่ จากปากคนธรรมดาๆ ที่เคยผ่านสนามนี้มาแล้ว

เรื่องมันเริ่มมาจากตอนนั้นผมมีความฝันครับ อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เปิดหูเปิดตาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไอ้ครั้นจะเดินดุ่มๆ เข้าไปเลยมันก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ อย่างแรกเลยที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เขาต้องการก็คือ “ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ” แล้วชื่อแรกที่แวบเข้ามาในหัว และที่คนรอบข้างพูดถึงกันเยอะมากก็คือ IELTS นี่แหละ

ตอนแรกก็งงๆ นะครับ ielts คืออะไรวะ? สอบอะไรบ้าง? ยากไหม? ผมก็เริ่มจากการไปเสิร์ชหาข้อมูลเลยครับ ก็ได้รู้ว่ามันคือการสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษของเรานี่แหละ โดยจะวัดทั้งหมด 4 ทักษะ คือ

• การฟัง (Listening)
• การอ่าน (Reading)
• การเขียน (Writing)
• การพูด (Speaking)

แต่ละทักษะคะแนนเต็ม 9 แบนด์ แล้วเขาก็จะเอาคะแนนทั้ง 4 ส่วนมาคิดเป็นคะแนนรวม (Overall Band Score) อีกที ตอนนั้นก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า อ้อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง

แล้วประสบการณ์จริงของผมเป็นยังไง?

หลังจากรู้แล้วว่า ielts คืออะไร สิ่งต่อไปที่ผมทำก็คือ การเตรียมตัว ครับ บอกตามตรงว่าตอนแรกก็แอบท้อนะ ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้เทพอะไรขนาดนั้น แต่ไหนๆ ก็ตั้งใจแล้วก็ต้องลุย! ผมเริ่มจากการไปหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ IELTS มาอ่าน ลองทำข้อสอบเก่าๆ จับเวลาจริงจังเลยครับ ส่วนไหนอ่อนก็พยายามไปติวเพิ่ม อย่างพาร์ทเขียนกับพูดนี่เป็นอะไรที่ผมกังวลมาก ก็ต้องฝึกเขียนบ่อยๆ ฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจกบ้าง หาเพื่อนช่วยฟังบ้าง

จำได้เลยว่าช่วงนั้นชีวิตวนเวียนอยู่กับการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบ ฟังภาษาอังกฤษ ดูหนังฝรั่งแบบไม่เปิดซับ (พยายามจะอิน ฮ่าๆ) มันเหนื่อยนะ แต่ก็สนุกไปอีกแบบ พอใกล้ๆ สอบก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างนิดนึง

พอถึงวันสอบจริง โอ้โห ตื่นเต้นมากครับ! บรรยากาศในห้องสอบมันกดดันกว่าที่คิดเยอะเลย พาร์ทฟังนี่ต้องตั้งสติให้ดีมากๆ เพราะพลาดแล้วพลาดเลย ส่วนพาร์ทอ่านก็ต้องแข่งกับเวลา บทความยาวเหยียด ศัพท์ก็ยากเอาเรื่อง พาร์ทเขียนก็ต้องเค้นไอเดียออกมาให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด ส่วนพาร์ทพูดนี่เหมือนยกภูเขาออกจากอกตอนสอบเสร็จ เพราะได้พูดกับ Examiner ตัวเป็นๆ เลย ตอนนั้นก็พยายามพูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด แสดงความคิดเห็นของเราออกไป

ผลลัพธ์ที่ได้ และสิ่งที่ IELTS สอนผม

หลังสอบเสร็จก็ต้องรอผลประมาณเกือบสองอาทิตย์ ช่วงนั้นคือลุ้นยิ่งกว่าหวยอีกครับ! พอผลออกมา… ก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งสำหรับความพยายามของเรา อาจจะไม่ได้สูงเวอร์วังเหมือนที่ตั้งเป้าไว้เป๊ะๆ แต่ก็เพียงพอที่จะใช้ยื่นสมัครเรียนได้

สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ielts คือ บททดสอบนึงที่มันไม่ได้วัดแค่ความรู้ภาษาอังกฤษของเราอย่างเดียวนะครับ แต่มันยังวัดความอดทน ความมุ่งมั่น และวินัยในการเตรียมตัวของเราด้วย การเตรียมตัวสอบ IELTS มันทำให้ผมได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองขึ้นมาเยอะมากจริงๆ จากที่เมื่อก่อนอาจจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง อ่านไม่ค่อยเข้าใจ เขียนไม่ค่อยได้ พูดก็ตะกุกตะกัก พอได้มาจริงจังกับมัน มันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางการไปเรียนต่อของผมอาจจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนที่ฝันไว้เป๊ะๆ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง แต่ประสบการณ์จากการเตรียมตัวและสอบ IELTS ครั้งนั้นมันก็ไม่ได้สูญเปล่าเลยครับ มันทำให้ผมมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น กล้าที่จะสื่อสารมากขึ้น แล้วก็ยังเอาไปปรับใช้กับการทำงานได้อีกด้วย

สรุปง่ายๆ แบบบ้านๆ เลยนะครับ ielts คือ ประตูบานหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้เราได้ก้าวไปสู่สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อ การทำงาน หรือแม้แต่การย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศ ใครที่กำลังมองหาโอกาสแบบนี้อยู่ หรือแค่อยากจะทดสอบความสามารถทางภาษาของตัวเอง ผมว่า IELTS ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ มันอาจจะดูยาก อาจจะดูน่ากลัว แต่ถ้าเราตั้งใจจริง ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอนครับ สู้ๆ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ