สวัสดีครับทุกคน! วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรง ๆ กับคำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้เหลือเกินว่า palfish ดีไหม ราคา เป็นยังไงบ้าง หลังจากที่ผมได้ลองให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้ใช้งานจริงจังมาพักใหญ่ ๆ แล้ว
จุดเริ่มต้นของการตามหา
คือเรื่องมันเริ่มจากลูกชายนี่แหละครับ เริ่มโตแล้วก็อยากให้แกได้ภาษาที่สามติดตัวไว้บ้าง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนี่สำคัญเลยในยุคนี้ ตอนแรกก็มอง ๆ พวกโรงเรียนสอนภาษาแถวบ้าน แต่มันติดเรื่องเวลาเดินทาง ไหนจะการบ้านของลูกอีก เลยคิดว่าเรียนออนไลน์น่าจะตอบโจทย์กว่าเยอะ
ก็เลยเริ่มเสิร์ชหาข้อมูลเลยครับ ถามเพื่อนฝูงที่ลูกเรียนออนไลน์บ้าง ดูรีวิวตามกลุ่มผู้ปกครองบ้าง จนมาเจอชื่อ PalFish เนี่ยแหละ เห็นคนพูดถึงกันเยอะพอสมควร ก็เลยอ่ะ ลองดูซักตั้ง
ลองใช้งานจริง PalFish
ขั้นตอนแรก ผมก็เริ่มจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน PalFish มาติดตั้งในแท็บเล็ตของลูกก่อนเลย ตัวแอปหน้าตาก็ดูใช้งานง่ายนะ ไม่ซับซ้อนอะไรมาก เด็ก ๆ น่าจะพอเข้าใจได้
การเลือกครูและทดลองเรียน: อันนี้เป็นส่วนที่ผมค่อนข้างให้ความสำคัญเลย ใน PalFish เนี่ย เค้าจะมีครูให้เลือกเยอะมาก มีทั้งครูเจ้าของภาษา (Native Speaker) และครูฟิลิปปินส์ ผมก็ลองดูโปรไฟล์ครูแต่ละคน ดูวิดีโอแนะนำตัว อ่านรีวิวจากผู้ปกครองคนอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจ ช่วงแรก ๆ ก็มีให้ทดลองเรียนฟรีด้วยนะ ผมก็ไม่พลาด จัดไปสิ! ให้ลูกได้ลองคุยกับครูหลาย ๆ แบบ
- ครูบางคนก็เอเนอร์จี้เยอะมาก ชวนคุยเก่ง ลูกชอบ
- บางคนสำเนียงเป๊ะมาก ฟังแล้วเคลิ้ม
- บางคนก็อาจจะยังไม่ค่อยคลิกกับลูกเราเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องค่อย ๆ หาไป
เนื้อหาการเรียนการสอน: ส่วนใหญ่เนื้อหาเค้าก็จะมีเป็นหลักสูตรของเค้าเลยนะ แบ่งเป็นระดับชั้นตามอายุและความสามารถของเด็ก มีภาพประกอบ มีเกมให้เล่นบ้างระหว่างเรียน ลูกผมก็ดูสนุกดี ไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับให้เรียนจนเกินไป
แล้ว PalFish ราคาเท่าไหร่?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ “ราคา” ของ PalFish เนี่ย เอาจริง ๆ นะ มันไม่ได้มีราคาตายตัวแบบเป๊ะ ๆ ว่าเดือนละเท่านี้เท่านั้น แต่มันจะขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เราเลือกครับ
สิ่งที่ผมเจอและทำความเข้าใจคือ:
- ซื้อเป็นคอร์สใหญ่จะคุ้มกว่า: เค้าจะมีให้เลือกซื้อเป็นจำนวนคลาสเรียน เช่น 30 คลาส, 60 คลาส, 120 คลาส ยิ่งซื้อเยอะ ราคาต่อคลาสก็จะถูกลง อันนี้เป็นเรื่องปกติของการซื้อคอร์สอยู่แล้ว
- ประเภทของครูมีผลต่อราคา: ถ้าเลือกเรียนกับครูเจ้าของภาษา ราคาก็จะสูงกว่าครูฟิลิปปินส์ อันนี้ก็ต้องชั่งใจดูว่าเราเน้นเรื่องสำเนียงเป๊ะ ๆ หรือเน้นการได้ฝึกพูดคุยบ่อย ๆ ในงบที่จำกัดกว่า
- โปรโมชั่นก็มีเรื่อย ๆ: ต้องคอยส่องดูครับ บางทีก็มีโปรลดราคา หรือแถมคลาสพิเศษมาให้บ้าง ตอนผมซื้อก็ได้โปรมานิดหน่อย ก็ช่วยประหยัดไปได้บ้าง
ถ้าให้บอกเป็นตัวเลขกลม ๆ ตอนที่ผมดู ๆ และตัดสินใจซื้อแพ็กเกจให้ลูก (เลือกครูผสม ๆ กันไป) เฉลี่ยต่อคลาสก็ตกอยู่ประมาณหลักร้อยบาทต่อครั้ง (ประมาณ 25 นาที) ซึ่งถ้าเทียบกับการไปเรียนพิเศษข้างนอกที่ต้องเสียค่าเดินทางด้วย ผมว่าราคานี้ก็พอรับได้นะ สำหรับการได้เรียนตัวต่อตัวกับครู
สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว
palfish ดีไหม? สำหรับผม ผมว่ามันเป็นเครื่องมือที่ดีตัวหนึ่งเลยนะที่ช่วยให้ลูกได้มีโอกาสฝึกภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติได้สะดวกจากที่บ้าน
ข้อดีที่เห็นชัด ๆ:
- สะดวก ไม่ต้องเดินทาง
- เลือกครูได้หลากหลาย
- เวลาเรียนค่อนข้างยืดหยุ่น (แล้วแต่การจองคิวครู)
- ลูกได้เรียนตัวต่อตัว ครูโฟกัสได้เต็มที่
ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
- ราคาอาจจะดูสูงสำหรับบางคน ถ้าเทียบกับการเรียนกลุ่มใหญ่ ๆ
- ต้องอาศัยความมีวินัยของทั้งผู้ปกครองและเด็กในการเข้าเรียนสม่ำเสมอ
- การเลือกครูที่ “ใช่” สำหรับลูก อาจจะต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกบ้าง
สุดท้ายแล้ว ผมว่ามันไม่มีอะไรที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และความชอบของแต่ละครอบครัวมากกว่า สำหรับบ้านผม PalFish ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่งเลย ลูกก็ดูสนุกกับการเรียนและมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องราคาก็อย่างที่บอกไปครับ ต้องลองเข้าไปดูรายละเอียดแพ็กเกจในแอปเค้าอีกที เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้
หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูก ๆ นะครับ ลองเอาไปพิจารณากันดูครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments