palfish ดีไหม ราคา อัปเดตล่าสุด มีคอร์สอะไรน่าสนใจบ้างสำหรับเด็กเล็ก
Share:

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับไอ้เจ้า PalFish เนี่ย ว่ามันดีไหม ราคาเป็นยังไง จากที่ลองใช้ให้ลูกเรียนมาพักนึงแล้ว

เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นลูกๆ ปิดเทอมยาวเพราะโควิด แล้วก็อยากให้เค้าได้ฝึกภาษาอังกฤษแบบจริงๆ จังๆ ซะหน่อย ไม่ใช่แค่เรียนตามตำราในห้องเรียนอย่างเดียว ก็เลยเริ่มมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ ดู

ไปเจอ PalFish นี่ก็เพราะเห็นคนพูดถึงกันเยอะในกลุ่มผู้ปกครอง บวกกับเห็นโฆษณาผ่านตาบ้าง ก็เลยลองเข้าไปศึกษาดูรายละเอียดก่อนเลยครับว่า palfish ดีไหม ราคา มันเป็นยังไง คุ้มค่ารึเปล่า

ขั้นตอนแรกที่ผมทำก็คือ โหลดแอปพลิเคชัน PalFish มาติดตั้งในแท็บเล็ตของลูกก่อนเลยครับ การสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร กรอกข้อมูลทั่วไป ตั้งรหัสผ่าน แป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อย

พอเข้ามาในแอปได้แล้ว ก็จะเห็นหน้าตาของครูผู้สอนเยอะแยะไปหมดเลยครับ มีทั้งครูที่เป็นเจ้าของภาษาจริงๆ (Native Speaker) กับครูชาวฟิลิปปินส์ เราก็สามารถเลือกดูโปรไฟล์ของครูแต่ละคนได้ ว่าเค้ามีประสบการณ์สอนยังไง สำเนียงเป็นแบบไหน มีรีวิวจากผู้เรียนคนอื่นว่ายังไงบ้าง

ตอนนั้นผมตัดสินใจลองซื้อเป็นแพ็กเกจเล็กๆ ดูก่อน เพื่อทดลองว่าลูกจะชอบไหม จะเรียนรู้เรื่องรึเปล่า จำได้ว่าราคาก็มีหลายระดับให้เลือกครับ ตั้งแต่แบบเรียนทีละครั้ง หรือซื้อเป็นคอร์สยาวๆ ก็จะมีส่วนลดเพิ่มขึ้นไปอีก ตอนนั้นก็คิดหนักเหมือนกันเรื่องราคา เพราะถ้าเทียบกับเรียนพิเศษทั่วไปก็ถือว่าเอาเรื่องอยู่

หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย ก็ถึงขั้นตอนการจองคลาสเรียนครับ ในแอปเค้าจะมีตารางสอนของครูแต่ละคนบอกไว้เลยว่าว่างสอนช่วงไหนบ้าง เราก็เลือกครูที่ถูกใจ แล้วก็เลือกเวลาที่สะดวกได้เลย ส่วนใหญ่คลาสเรียนนึงก็จะประมาณ 25 นาที

ครั้งแรกลูกก็ดูตื่นเต้นดีครับ ได้คุยกับครูฝรั่งตัวเป็นๆ ผ่านหน้าจอ ครูบางคนก็มีอุปกรณ์ประกอบการสอนน่ารักๆ พวกตุ๊กตา หรือภาพการ์ตูน มาช่วยดึงดูดความสนใจเด็กๆ ได้ดีเลยทีเดียว ลูกผมก็ดูสนุกกับการเรียนในช่วงแรกๆ นะครับ เค้ากล้าพูดมากขึ้น จากที่เคยอายๆ ไม่กล้าพูด ก็เริ่มตอบโต้กับครูได้บ้าง

แต่ก็มีบางจุดที่ผมรู้สึกว่ายังต้องปรับปรุง อย่างเช่น ครูบางคนอาจจะไม่ได้มีเทคนิคการสอนที่ดึงดูดเด็กเล็กเท่าไหร่ หรือบางทีสัญญาณอินเทอร์เน็ตฝั่งครูอาจจะไม่ค่อยเสถียร ทำให้ภาพกระตุกบ้าง เสียงขาดๆ หายๆ บ้าง ก็เป็นอุปสรรคเล็กน้อยครับ แล้วก็เรื่องการบ้าน บางทีก็รู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยเป็นระบบเท่าที่ควร

เรื่องราคาก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ผมคิดว่าค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับการเรียนในระยะยาว อาจจะต้องเตรียมงบประมาณไว้พอสมควรเลยครับ

สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ

  • ข้อดีที่เห็นชัดๆ:
    • ลูกได้ฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษาจริงๆ ทำให้เกิดความคุ้นเคย กล้าแสดงออกมากขึ้น
    • สะดวกสบาย เรียนได้จากที่บ้าน ไม่ต้องเดินทาง
    • เลือกครู เลือกเวลาเรียนได้เองค่อนข้างยืดหยุ่น
    • มีสื่อการสอนประกอบที่น่าสนใจสำหรับเด็กเล็ก
  • ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
    • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นๆ
    • คุณภาพของครูอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง ต้องลองเลือกดูดีๆ
    • บางครั้งอาจมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือปัญหาทางเทคนิคของแอปบ้างเล็กน้อย
    • การบ้านหรือการติดตามผลอาจจะต้องให้ผู้ปกครองช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด

สุดท้ายแล้ว ผมว่า PalFish ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ปกครองที่อยากให้ลูกได้ฝึกภาษาอังกฤษแบบเน้นการสนทนากับเจ้าของภาษาครับ แต่ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูระหว่างข้อดี ข้อเสีย และเรื่องงบประมาณให้เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวด้วย ส่วนตัวผมหลังจากลองคอร์สนั้นจบไป ก็ให้ลูกพักไปก่อน แล้วก็หาพวกการ์ตูนภาษาอังกฤษ หรือหนังสือนิทานสองภาษามาเสริมแทนครับ ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่หลากหลายรูปแบบกันไป

นี่ก็เป็นประสบการณ์ตรงของผมกับ PalFish นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ใครเคยใช้แล้วมีความเห็นยังไงก็มาแชร์กันได้นะครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?