สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ผมได้ไปลองสมัครแล้วก็ลองใช้งาน Palfish ดู หลังจากที่เห็นหลายๆ คนในพันทิปพูดถึงกันเยอะมากว่ามันดีไหม เป็นยังไงบ้าง ผมก็เลยอยากรู้กับตัวเองเลยครับ
จุดเริ่มต้นของการลอง Palfish
คือผมเองก็มองหาช่องทางหารายได้เสริมอยู่บ้าง แล้วก็พอจะมีความรู้ภาษาอังกฤษติดตัวอยู่บ้าง เห็นคนพูดถึงแอปสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ แล้ว Palfish นี่ก็เป็นชื่อที่โผล่มาบ่อยๆ ในกระทู้พันทิป ผมก็เลยคิดว่า เอ้อ ลองดูซักตั้งจะเป็นไรไป อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันเป็นยังไง
ขั้นตอนการสมัครที่ต้องเตรียมตัว
เอาล่ะ เริ่มจากโหลดแอป Palfish มาเลยครับ หน้าตาแอปก็ดูใช้ง่ายดีนะ ผมก็กดสมัครเข้าไป ขั้นตอนแรกๆ ก็กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไปครับ ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ อะไรทำนองนี้ จากนั้นก็จะมีให้เราเลือกประเภทบัญชี ซึ่งผมเข้าใจว่ามันมีหลายแบบ ทั้งแบบ Free Talk ที่เรากำหนดราคาเองได้ กับแบบ Official Kids Course ที่ทางแอปจะมีหลักสูตรให้
ทีนี้มาถึงส่วนที่ผมว่าต้องเตรียมตัวกันหน่อย คือการยืนยันตัวตนกับพวกเอกสารต่างๆ ครับ ตอนนั้นที่ผมสมัครเนี่ย เขาต้องการ:
- รูปถ่ายหนังสือเดินทาง หรือบัตรประชาชน
- ใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษ เช่น TEFL, TESOL (ถ้ามีจะดีมาก แต่ตอนนั้นผมยังไม่มี ก็เลยลองยื่นวุฒิการศึกษาดูก่อน)
- วิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ อันนี้สำคัญเลยครับ ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ แนะนำตัว บอกประสบการณ์ (ถ้ามี) แล้วก็แสดงให้เห็นว่าเราเป็นมิตร เข้ากับเด็กได้
- เสียงอ่านตัวอย่าง อันนี้ก็ให้เราอ่านบทความสั้นๆ ที่เขากำหนดให้ เพื่อดูสำเนียงการออกเสียงของเรา
ความรู้สึกตอนสมัคร: บอกตามตรงว่าตอนเตรียมเอกสารกับอัดวิดีโอนี่ก็ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ วิดีโอนี่อัดแล้วอัดอีก อยากให้ออกมาดูดีที่สุด เพราะคิดว่ามันเป็นด่านแรกที่เขาจะเห็นเรา หลังจากส่งเอกสารทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ก็ต้องรอครับ รอให้ทาง Palfish ตรวจสอบและอนุมัติ
ช่วงเวลาแห่งการรอคอย และผลลัพธ์
ช่วงที่รอนี่ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ นะครับ เข้าไปเช็คในแอปอยู่เรื่อยๆ ว่าสถานะมันอัปเดตหรือยัง ของผมนี่รอประมาณ…น่าจะเกือบๆ สัปดาห์นึงได้มั้งครับ แล้วก็มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาว่า “ผ่านการอนุมัติแล้ว!” ตอนนั้นก็ดีใจครับ อย่างน้อยความพยายามของเราก็ไม่เสียเปล่า
พอผ่านแล้ว ผมก็เข้าไปตั้งค่าโปรไฟล์ให้เรียบร้อย ใส่รูปโปรไฟล์ดีๆ เขียนแนะนำตัวให้น่าสนใจ แล้วก็เริ่มทำความเข้าใจกับระบบการจองคลาส การเปิดสล็อตเวลาว่างของเราเพื่อให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนเข้ามาจองได้
ประสบการณ์หลังจากได้เริ่มใช้งานจริง (นิดหน่อย)
เอาจริงๆ นะครับ หลังจากที่ได้รับการอนุมัติ ผมก็พยายามเข้าไปเปิดสล็อตเวลาว่างของตัวเอง แต่ช่วงแรกๆ เนี่ย นักเรียนยังไม่ค่อยเข้ามาเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะผมยังเป็นครูใหม่ โปรไฟล์ยังไม่ค่อยมีรีวิว หรืออาจจะต้องโปรโมทตัวเองในช่องทางอื่นๆ ของแอปด้วย (ซึ่งผมยังไม่ได้ลองทำตรงนั้นมากนัก)
ผมลองเปิด Free Talk ดูก่อน เพราะรู้สึกว่ามันอิสระดี กำหนดราคาเองได้ แต่ก็ยังเงียบๆ ครับ อาจจะต้องใช้เวลาสร้างฐานนักเรียนพอสมควร ส่วน Official Kids Course อันนี้ผมยังไม่ได้ลองสมัครเข้าไปจริงจัง เพราะเห็นว่าข้อกำหนดค่อนข้างเยอะกว่า แล้วก็ต้องมี commitment กับเวลาพอสมควร
สิ่งที่สังเกตได้:
- การแข่งขันค่อนข้างสูงครับ เพราะมีครูจากทั่วโลกเลย
- การสร้างโปรไฟล์ให้น่าดึงดูด และการมีรีวิวดีๆ สำคัญมาก
- ต้องมีความกระตือรือร้นในการเปิดสล็อตเวลา และอาจจะต้องออนไลน์บ่อยๆ เพื่อให้มีคนเห็น
- ระบบการจ่ายเงิน เห็นว่าจ่ายผ่าน Payoneer ซึ่งก็เป็นช่องทางสากล แต่ผมยังไปไม่ถึงจุดนั้นครับ ฮ่าๆ
สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม
ถามว่า Palfish ดีไหม? จากที่ผมได้ลองสมัครและเริ่มใช้งานนิดหน่อย ผมว่ามันก็เป็นแพลตฟอร์มที่มีโอกาสนะครับ สำหรับคนที่อยากสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลา แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้ง่ายแบบสมัครปุ๊บได้สอนปั๊บ ได้เงินเลยทันที มันต้องใช้ความพยายาม ความอดทนในการสร้างโปรไฟล์ สร้างฐานนักเรียน และต้องแอคทีฟพอสมควรเลยล่ะครับ
ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร ผมว่าเหมาะกับคนที่มีใจรักการสอนจริงๆ มีเวลา มีความอดทน และพร้อมที่จะเรียนรู้ระบบใหม่ๆ ถ้าคุณสมบัติประมาณนี้ ก็น่าจะลองดูได้ครับ ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้ฝึกภาษา ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ (ถ้ามีนักเรียนเข้ามานะ)
ส่วนตัวผมเอง หลังจากลองได้พักนึง ก็รู้สึกว่าอาจจะยังไม่ใช่ทางของผมเท่าไหร่ในช่วงนั้น เพราะผมอาจจะยังไม่ได้ทุ่มเทเวลาให้กับมันมากพอ แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ แล้วก็ได้รู้ว่าโลกของการสอนออนไลน์มันเป็นยังไง
นี่ก็เป็นประสบการณ์ตรงของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจ Palfish อยู่ไม่มากก็น้อย ลองเอาไปพิจารณากันดูครับผม!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments