ประสบการณ์ตรงเรื่องราคา Palfish ที่อยากแชร์

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยนะ เรื่องที่หลายคนน่าจะสงสัยกันอยู่ คือเรื่อง palfish ราคา นี่แหละ ตอนแรกผมก็เหมือนคนอื่นๆ นะ ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาว่าเออ Palfish นี่มันดีสำหรับให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ผมก็เลยลองดูสิ

เริ่มแรกเลยนะ ผมก็โหลดแอปมาเลย ติดตั้งอะไรเรียบร้อย ก็เข้าไปส่องๆ ดู คือต้องบอกว่าตอนแรกแอบงงนิดหน่อย เพราะมันไม่ได้มีราคาแปะไว้ชัดเจนแบบตายตัวเหมือนซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตอ่ะ มันมีครูให้เลือกเยอะมากกกกก แต่ละคนก็มีเรทราคาไม่เท่ากันอีก บางคนก็คิดเป็นนาที บางคนก็เป็นคอร์ส

ผมก็เริ่มจากการลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเลยครับ พยายามดูรีวิวตามกลุ่มต่างๆ ถามเพื่อนที่เคยใช้บ้าง ว่าเอ๊ย มันคิดเงินยังไงกันแน่ แล้วมันคุ้มไหม คือข้อมูลมันก็มีหลากหลายนะ บางคนบอกว่าต้องซื้อเป็นแพ็กเกจใหญ่ๆ ถึงจะคุ้ม บางคนก็บอกว่าลองเลือกครูที่โปรไฟล์ดีๆ หน่อย ราคาสูงนิดแต่ชัวร์กว่า ผมนี่เกาหัวเลย เอาไงดีวะ

• ประเภทครู: ผมสังเกตว่าครูที่เป็นเจ้าของภาษา (Native Speaker) โดยเฉพาะจากโซนอเมริกา อังกฤษ เนี่ย ราคามักจะสูงกว่าครูจากประเทศอื่นๆ หน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าครูชาติอื่นจะไม่เก่งนะ บางคนสอนดีมาก เข้าใจเด็กไทย ราคาเป็นมิตรกว่าก็มี
• ประสบการณ์ของครู: อันนี้ก็มีผล ครูที่สอนมานานๆ มีรีวิวเยอะๆ ดาวเต็มๆ ก็มักจะตั้งราคาสูงกว่าครูใหม่ๆ หน่อย เป็นธรรมดา
• คอร์สเรียนหรือแพ็กเกจ: นี่แหละตัวปวดหัวเลย มันมีแบบซื้อเป็นครั้งๆ ไป หรือซื้อเป็นคอร์สยาวๆ 3 เดือน 6 เดือน ยิ่งซื้อเยอะยิ่งถูกลงต่อครั้ง แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเราสะดวกจ่ายก้อนใหญ่ไหม แล้วลูกจะเรียนไหวหรือเปล่า
• ช่วงเวลาโปรโมชั่น: อันนี้ต้องคอยส่องเลยครับ บางทีแอปมันก็มีโปรโมชั่นลดราคา แจกคูปองส่วนลดอะไรพวกนี้ออกมาบ้าง ถ้าเจอจังหวะดีๆ ก็ประหยัดไปได้เยอะ

ด้วยความอยากรู้แล้วก็อยากให้ลูกได้ลองจริงๆ ผมก็เลยลองตัดสินใจเติมเงินเข้าไปก้อนนึงก่อน ไม่เยอะมาก เอาไว้ลองผิดลองถูก แล้วก็เริ่มจากลองเลือกครูที่ดูโปรไฟล์กลางๆ ราคากลางๆ ไม่ถูกไม่แพงเกินไป ให้ลูกลองเรียนดูก่อนเลยครับ ครั้งแรกก็ตื่นเต้นทั้งพ่อทั้งลูก ลูกก็ดูสนุกดีนะ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่รู้ว่าจะคุ้มไหมถ้าเทียบกับเงินที่จ่ายไป

บทสรุปจากประสบการณ์จริง

หลังจากลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่เลยครับ เปลี่ยนครูไปสองสามคน ลองซื้อคลาสแบบสั้นๆ ดูก่อนบ้าง จนมาเจอครูคนที่ลูกค่อนข้างโอเคด้วย แล้วก็ลองดูแพ็กเกจที่มันพอเหมาะพอสมกับงบประมาณเรา ผมถึงได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า ไอ้เรื่อง palfish ราคา เนี่ย มันไม่ใช่แค่ตัวเลขกลมๆ อย่างเดียวจริงๆ นะครับ สิ่งสำคัญกว่าคือ:

• ความเข้ากันได้ของลูกกับครู: อันนี้โคตรสำคัญเลยครับ ต่อให้ครูโปรไฟล์เทพ ราคาแพงลิบ แต่ถ้าลูกเรียนแล้วเกร็ง ไม่กล้าพูด หรือครูสอนไม่สนุก ลูกไม่ชอบ มันก็เท่านั้นจริงๆ สู้หาครูที่ราคากลางๆ แต่ลูกเรียนแล้วแฮปปี้ กล้าคุยด้วย อันนี้เห็นผลกว่า
• ความสม่ำเสมอในการเรียน: การเรียนภาษามันต้องต่อเนื่อง ถ้าซื้อแพ็กเกจถูกๆ มา แต่ลูกเรียนบ้างไม่เรียนบ้างเพราะเบื่อหรือไม่ว่าง มันก็ไม่เห็นผล เสียดายเงินเปล่าๆ
• เป้าหมายที่เราตั้งไว้: เราอยากให้ลูกได้อะไรจากการเรียนครั้งนี้ อยากให้กล้าพูดมากขึ้น อยากให้รู้คำศัพท์เยอะขึ้น หรืออยากให้สำเนียงดีขึ้น เป้าหมายแต่ละอย่างก็อาจจะเหมาะกับครูคนละสไตล์ คนละราคา

สุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่ได้มีคำตอบตายตัวหรอกครับว่า Palfish ราคาเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าคุ้ม เพราะมันแล้วแต่คนจริงๆ แล้วแต่กระเป๋าตังค์ แล้วแต่ความคาดหวังของแต่ละบ้าน แต่จากประสบการณ์ของผมคือ อย่าไปมองแค่ว่าอันไหนถูกสุด หรืออันไหนแพงสุดแล้วจะดีสุด ให้ลองดูภาพรวม ลองให้ลูกได้ทดลองเรียนดูก่อน ถ้ามีคลาสทดลองฟรีก็จัดไปเลยครับ แล้วค่อยๆ สังเกตดูว่าลูกเราโอเคกับแบบไหน คุยกับครูคนไหนแล้วรู้สึกคลิก ค่อยตัดสินใจเลือกที่มันใช่สำหรับครอบครัวเราจริงๆ ครับ มันอาจจะต้องใช้เวลาในการค้นหาหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่เพื่อลูกแล้ว ผมว่ามันก็คุ้มที่จะลองดูครับ! หวังว่าประสบการณ์บ้านๆ ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังงงๆ เรื่องราคากันอยู่นะครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ