รีวิว Palfish จากประสบการณ์ตรงของผมเองครับ
สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ลองไปสมัครสอนภาษาอังกฤษออนไลน์กับแอปที่ชื่อว่า Palfish ดูนะครับ บอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างกะทันหันนิดนึง แต่ก็อยากลองดูสักตั้ง
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นว่างงานพอดีครับ มองหารายได้เสริมอะไรก็ได้ที่ทำจากที่บ้านได้ แล้วก็พอดีไปเห็นเพื่อนในเฟซบุ๊กคนนึงเขาโพสต์ว่าสอนผ่านแอปนี้อยู่ ก็เลยลองทักไปถามรายละเอียดเขาดู เขาก็บอกว่ามันก็โอเคนะ สอนเด็กจีนเป็นหลัก ใช้ภาษาอังกฤษล้วนๆ ไม่ต้องพูดจีนได้ก็สอนได้ ผมก็เออ น่าสนใจดีแฮะ
ขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ครับเริ่มจากที่ผมไปโหลดแอป Palfish Teacher มาก่อนเลยครับ หน้าตาแอปก็ดูใช้งานง่ายดีนะ
- อันดับแรกก็ต้องลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป ชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ อะไรพวกนี้
- จากนั้นก็จะมีให้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ประสบการณ์การสอน (ถ้ามี) แล้วก็ใบรับรองต่างๆ เช่น TEFL, TESOL ถ้าใครมีก็ใส่ไปครับ ของผมนี่ไม่มีเลย ก็อาศัยประสบการณ์ที่เคยสอนพิเศษเด็กแถวบ้านเอา ฮ่าๆ
- ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ตรงที่ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองครับ ประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที โชว์สกิลการพูดภาษาอังกฤษของเราหน่อย แล้วก็บอกว่าทำไมเราถึงอยากสอน
- แล้วก็จะมีให้ทำ Demo หรือบทเรียนทดลองสอนสั้นๆ ครับ เขาจะมีสไลด์มาให้ เราก็อัดเสียงสอนตามสไลด์นั้นไป
- สุดท้ายก็คือรอครับ รอให้ทางทีมงานเขาตรวจสอบข้อมูลแล้วก็อนุมัติ ของผมรอประมาณ 2-3 วันทำการมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด ก็มีอีเมลแจ้งกลับมาว่าผ่านแล้ว ดีใจสุดๆ
พอได้เริ่มสอนจริงจัง
หลังจากอนุมัติแล้ว เราก็ต้องไปตั้งค่าโปรไฟล์ของเราให้ดูน่าสนใจครับ ใส่รูปสวยๆ เขียนแนะนำตัวเองให้น่าดึงดูด แล้วก็ตั้งตารางเวลาที่เราสะดวกสอน ช่วงแรกๆ ที่ผมเปิดสอนใหม่ๆ นี่บอกเลยว่าเงียบกริบครับ ไม่มีนักเรียนจองเข้ามาเลย ก็แอบใจเสียเหมือนกันนะ
ผมก็เลยลองไปดูโปรไฟล์ของครูคนอื่นๆ ที่เขามีนักเรียนเยอะๆ เขาก็จะมีการทำสื่อโปรโมทตัวเอง มีการโพสต์กิจกรรมใน Moments ของแอป (คล้ายๆ ฟีดข่าว) ผมก็เลยลองทำตามบ้าง อัดคลิปสั้นๆ สอนคำศัพท์ง่ายๆ บ้าง ร้องเพลงเด็กบ้าง ก็เริ่มมีคนเห็นโปรไฟล์เรามากขึ้นครับ
ประสบการณ์การสอนจริงๆ- นักเรียนส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นเด็กเล็กครับ อายุประมาณ 3-10 ขวบ หลักสูตรที่ใช้ก็จะเป็นของ Palfish เองเลย เขาจะมีสไลด์มาให้พร้อม เราก็สอนตามนั้นไป ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก
- การสอนก็เน้นให้สนุกสนานครับ ใช้ท่าทางเยอะๆ พูดช้าๆ ชัดๆ ให้กำลังใจเด็กเยอะๆ บางทีเด็กก็จะมีงอแงบ้าง ไม่ยอมพูดบ้าง ก็ต้องพยายามหาทางหลอกล่อไปครับ
- เรื่องเวลาก็แล้วแต่เราจะเปิดเลยครับ แต่ส่วนใหญ่ช่วงเวลาทองที่นักเรียนจะเยอะก็จะเป็นช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียนของเด็กจีน แล้วก็วันเสาร์-อาทิตย์
- รายได้ก็จะคิดเป็นต่อคลาสครับ คลาสนึงประมาณ 25 นาที เรทเริ่มต้นอาจจะยังไม่สูงมาก แต่ถ้าเราสอนดี มีรีวิวดีๆ ก็จะมีโอกาสได้ปรับเรทขึ้นครับ
ช่วงแรกที่ผมยังไม่มีนักเรียนประจำ ก็จะอาศัยการกดรับ Freetalk ครับ คือนักเรียนคนไหนอยากคุยด้วยเขาก็จะโทรเข้ามาเลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า อันนี้ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ แต่รายได้อาจจะไม่แน่นอนเท่าคลาสประจำ
ผมทำอยู่ประมาณ 3-4 เดือนครับ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ได้ฝึกภาษา ได้เจอเด็กๆ น่ารักๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกไปเพราะได้งานประจำทำแล้ว เลยไม่มีเวลามาโฟกัสตรงนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าใครกำลังมองหารายได้เสริม หรืออยากลองสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Palfish ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ อาจจะต้องใช้ความพยายามในการโปรโมทตัวเองช่วงแรกหน่อย แต่ถ้าติดลมบนแล้วก็ไปได้เรื่อยๆ ครับ
ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์ตรงๆ ที่อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments