สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยว่า PalFish เนี่ย มันแพงจริงไหม ส่วนตัวผมเองก็เคยสงสัยเหมือนกันครับ ตอนแรกที่เห็นโฆษณาผ่านๆ คิดในใจว่า เอ๊ะ ราคามันจะแรงไปหรือเปล่านะ
ลองเองเลยดีกว่า จะได้รู้!
คือด้วยความที่อยากให้ลูกได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาดูบ้าง ก็เลยเริ่มศึกษาข้อมูลจริงจังครับ ตอนแรกก็ดูพวกคอร์สหลักของเค้าเลย ที่เป็นแพ็กเกจยาวๆ อันนั้นยอมรับว่าเห็นราคาแล้วก็ต้องคิดหนักนิดนึง มันเป็นเงินก้อนอยู่เหมือนกันนะ แต่พอไปดูๆ ศึกษาลึกลงไปอีกหน่อย อ้าว! มันมีแบบ Free Talk ด้วยนี่หว่า
ไอ้เจ้า Free Talk เนี่ย มันเหมือนเราเลือกครูเอง แล้วก็จ่ายเป็นครั้งๆ ไป อยากเรียนเมื่อไหร่ก็จองครูคนที่เราเล็งไว้ หรือคนที่เราคิดว่าสไตล์การสอนน่าจะเข้ากับลูกเราได้ ผมก็เลยตัดสินใจว่า เอาล่ะ ลองแบบนี้ก่อนแล้วกัน อย่างน้อยถ้าไม่เวิร์คก็ไม่เจ็บตัวมาก
ขั้นตอนการลอง Free Talk ของผม
ผมก็เริ่มจากโหลดแอป PalFish มาก่อนเลยครับ สมัครอะไรให้เรียบร้อย จากนั้นก็เข้าไปส่องโปรไฟล์ครู โอ้โห ครูเยอะมาก มีทั้งครูเจ้าของภาษาแท้ๆ (Native Speaker) จากอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย แล้วก็มีครูจากฟิลิปปินส์ด้วย ซึ่งแต่ละคนก็จะมีเรทราคาต่อคลาส (ประมาณ 25 นาที) ไม่เท่ากัน
ผมก็ลองเลือกครูที่ดูโปรไฟล์น่าสนใจ รีวิวดีๆ หน่อย แล้วก็ลองจองคลาสให้ลูกดูครับ ช่วงแรกลูกก็อาจจะเขินๆ หน่อย แต่ครูเค้าก็พยายามชวนคุยเก่งนะ มีเกม มีเพลง มีภาพประกอบ ทำให้บรรยากาศมันไม่น่าเบื่อ
- การเลือกครู: ผมลองเปลี่ยนครูไปเรื่อยๆ ในช่วงแรก เพื่อหาคนที่ลูกเรารู้สึกคลิกด้วยจริงๆ บางคนลูกชอบมาก บางคนก็เฉยๆ อันนี้ต้องลองเอง
- ความถี่ในการเรียน: ผมเริ่มจากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก่อน ดูว่าลูกไหวไหม แล้วก็ดูงบเราด้วย ฮ่าๆ
- การจ่ายเงิน: ก็เติมเงินเข้าแอปไป พอจองคลาสระบบมันก็ตัดเงินไปทีละครั้ง สะดวกดี ไม่ต้องจ่ายก้อนใหญ่
สรุปแล้ว PalFish แพงไหม สำหรับผมนะ
ถ้าถามผมตรงๆ ว่า PalFish แพงไหม ผมว่ามัน “แล้วแต่เราเลือก” ครับ
ถ้าคุณไปเลือกเรียนแต่คอร์สหลักที่เป็นแพ็กเกจใหญ่ๆ เลย แล้วจ่ายทีเดียว อันนั้นอาจจะรู้สึกว่าราคาสูงอยู่บ้าง แต่เค้าก็จะมีหลักสูตร มีหนังสือ มีระบบที่ชัดเจนให้
แต่ถ้าคุณเลือกแบบ Free Talk เหมือนที่ผมลองเนี่ย ผมว่าราคามันยืดหยุ่นมาก เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้เองเลย ครูบางคนเรทก็ไม่แรงมาก ครูฝรั่งแท้ๆ อาจจะสูงหน่อย แต่ครูฟิลิปปินส์เก่งๆ ก็เยอะ ราคาก็เบาลงมา แล้วเราก็เลือกเรียนเฉพาะตอนที่เราพร้อม หรือลูกอยากเรียนจริงๆ ไม่ได้มีข้อผูกมัดอะไรมากมาย
สำหรับผม ผมว่ามันคุ้มค่านะ เมื่อเทียบกับการที่เราต้องเสียเวลาเดินทางพาลูกไปเรียนพิเศษข้างนอก เจอรถติด ค่าน้ำมันอีก แถมอันนี้ได้เรียนตัวต่อตัวกับครูต่างชาติเลย อยู่บ้านก็เรียนได้ สบายจะตายไป
ดังนั้น คำแนะนำของผมคือ ลองโหลดแอปมาดูก่อนครับ ลองดูโปรไฟล์ครู ลองดูเรทราคา แล้วอาจจะลองจองคลาส Free Talk สักครั้งสองครั้งดูก่อนก็ได้ ค่อยๆ ลองไปครับ ของแบบนี้ต้องลองเองถึงจะรู้ว่ามัน “แพง” หรือ “คุ้ม” สำหรับเราและลูกของเราจริงๆ
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่นะครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments