สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับคำถามที่หลายคนชอบถามกันเข้ามาว่า “palfish แพงไหม” คือผมเองก็เคยสงสัยเหมือนกันเป๊ะๆ เลยครับ ตอนนั้นลูกชายคนเล็กกำลังหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อยู่พอดี ก็เลยต้องลงสนามไปค้นข้อมูลเองเลย

ผมก็เริ่มจากการลองโหลดแอปมาดูก่อนเลยครับ หน้าตาแอปมันก็ดูมีสีสัน น่ารักดีนะ เหมาะกับเด็กๆ แต่พอเริ่มกดเข้าไปดูตรงส่วนของค่าเรียน เอ้อ…อันนี้แหละที่ทำให้ต้องหยุดคิดนิดนึง มันมีหลายแบบ หลายราคาให้เลือกเต็มไปหมด ตอนแรกก็แอบงงๆ เหมือนกัน

ผมลองดูพวกครูที่สอนแบบ Freetalk ก่อนเลย ราคามันก็มีตั้งแต่แบบ เอ้อ…ไม่กี่สิบบาทต่อนาที ไปจนถึงครูที่ดูโปรไฟล์ดีๆ หน่อย มีประสบการณ์เยอะๆ ราคาก็จะขยับขึ้นไปอีก ผมก็ลองนั่งคำนวณเล่นๆ ดูนะ ว่าถ้าให้ลูกเรียนอาทิตย์ละสักสองครั้ง ครั้งละประมาณ 25-30 นาที เดือนนึงนี่จะตกประมาณเท่าไหร่ ก็มีแอบอุทานในใจเบาๆ ว่า “โอ้โห…ก็เอาเรื่องอยู่นะเนี่ย”

แล้วมันก็จะมีอีกแบบที่เป็นคอร์สเรียนสำหรับเด็กโดยเฉพาะเลย อันนี้เขาจะขายเป็นแพ็กเกจ มีจำนวนคาบเรียนชัดเจน มีหนังสือ มีหลักสูตรเป็นเรื่องเป็นราวเลยแหละ ราคาแพ็กเกจใหญ่ๆ ถ้าหารเฉลี่ยต่อคาบออกมา มันก็ดูเหมือนจะถูกกว่าที่เราไปเลือกครู Freetalk เองเป็นครั้งๆ นะ แต่ประเด็นคือ เราต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปเลยทีเดียวไงครับ ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมต้องกลับมานั่งกุมขมับคิดหนักเลยว่าจะเอายังไงดี

สิ่งที่ผมเอามานั่งคิดตอนนั้นนะ ว่าคุ้มไม่คุ้ม แพงไม่แพง

• คุณภาพครู: อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าครูในนั้นโปรไฟล์ดีๆ เยอะเลยนะ บางคนเป็นเจ้าของภาษาจริงๆ มีใบรับรองการสอน รีวิวจากผู้ปกครองคนอื่นก็มีให้อ่านประกอบการตัดสินใจ
• ความสะดวกสบาย: อันนี้ให้เต็มสิบเลย เรียนที่บ้านได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับ แค่มีอินเทอร์เน็ตกับแท็บเล็ตหรือมือถือก็เรียนได้แล้ว ประหยัดเวลาพ่อแม่ไปได้เยอะ
• หลักสูตรของเขา: ถ้าเป็นคอร์สสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เขาก็จะมีหนังสือเรียน มีเพลง มีเกมส์ ดูแล้วก็น่าจะสนุกสำหรับเด็กๆ อยู่แหละ ดูมันเป็นระบบดี
• เทียบกับที่อื่น: ผมก็ลองเอาไปเทียบกับค่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษแถวบ้าน หรือแอปสอนภาษาอื่นๆ ที่เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้าง ราคามันก็มีทั้งถูกกว่า มีทั้งแพงกว่า ปนๆ กันไปครับ มันแล้วแต่ว่าเราจะเทียบกับอะไร

สุดท้ายแล้วผมตัดสินใจยังไงเหรอครับ? คือต้องบอกตามตรงว่าคำว่า “แพง” หรือ “ไม่แพง” เนี่ย มันเป็นเรื่องที่แต่ละบ้าน แต่ละคนมองไม่เหมือนกันจริงๆ ครับ สำหรับบ้านผม ณ ตอนนั้น ด้วยงบประมาณที่เราตั้งไว้ บวกกับความต้องการของลูกที่ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบเรียนออนไลน์แบบนี้ไปได้นานแค่ไหน ผมเลยรู้สึกว่าราคามันค่อนข้างจะ “สูงไปนิดนึง” สำหรับการเริ่มต้นครับ ถ้าจ่ายไปก้อนใหญ่แล้วลูกเรียนไม่กี่ครั้งแล้วเบื่อ ผมคงเสียดายแย่

แต่ถ้าถามว่ามันมีโอกาสจะคุ้มค่าไหม ผมว่าสำหรับบางครอบครัว หรือเด็กบางคนที่เขาคลิกกับครู ومعวิธีการสอนแบบนี้ มันก็คุ้มค่ามากๆ เลยนะ โดยเฉพาะถ้าลูกเรียนแล้วชอบ เรียนแล้วเห็นพัฒนาการจริงๆ จังๆ การลงทุนเพื่อการศึกษาของลูกมันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วแหละครับ เพียงแต่เราต้องดูความพร้อมของกระเป๋าตังค์เราด้วย แล้วก็ดูว่าลูกเราโอเคกับมันจริงๆ หรือเปล่า

ผมเลยอยากจะแนะนำเพื่อนๆ ที่กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ว่า ก่อนจะตัดสินใจว่า PalFish มันแพงสำหรับเราไหม ลองเข้าไปศึกษาข้อมูลในแอปด้วยตัวเองเลยครับ ลองคำนวณค่าใช้จ่ายตามความต้องการของเราจริงๆ ดูว่าเราอยากให้ลูกเรียนบ่อยแค่ไหน เรียนกับครูแบบไหน แล้วลองประเมินดูว่าเราคาดหวังอะไรจากการเรียนครั้งนี้บ้าง บางทีสิ่งที่คนอื่นบอกว่าแพง มันอาจจะเหมาะสมกับเราก็ได้ หรือถ้าดูแล้วมันแพงไปจริงๆ สำหรับเรา ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ในตลาดอีกเยอะแยะให้ลองพิจารณาครับ

ก็หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาเล่าให้ฟังวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังหาข้อมูลเรื่อง PalFish อยู่นะครับ ลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย แล้วก็ดูงบประมาณของเราประกอบกันไปครับผม!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ