สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยกับเรื่อง Palfish Class เนี่ยแหละ ว่ามันดีจริงไหม หลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านๆ ตากันมาบ้างแหละเนอะ

เรื่องของเรื่องคือลูกชายคนเล็กที่บ้านนี่แหละครับ ภาษาอังกฤษนี่คือแบบ…แทบจะนับหนึ่งใหม่เลย ผมก็เลยคิดว่าเออ…ต้องหาอะไรให้มันเรียนเสริมหน่อย ยุคสมัยนี้อะไรๆ มันก็ออนไลน์ไปซะหมดแล้วใช่มั้ยล่ะ สะดวกดี ผมก็เลยเริ่มมองหาคลาสเรียนออนไลน์ให้ลูก

ไปเจอ Palfish ได้ยังไง?

จำได้ลางๆ ว่าตอนนั้นน่าจะไถเฟซบุ๊กเล่นเพลินๆ นี่แหละครับ แล้วก็มีโฆษณาของ Palfish เด้งขึ้นมา หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพื่อนในกลุ่มไลน์พ่อๆ แม่ๆ เขาคุยกันเรื่องนี้ ผมก็เอะใจนิดหน่อย เห็นว่าเออ…น่าสนใจดี ดูมีสีสัน มีตัวการ์ตูนอะไรเยอะแยะ เด็กๆ น่าจะชอบ ก็เลยลองเก็บชื่อไว้ในใจก่อน

ขั้นตอนการลองผิดลองถูกของผม:

• อย่างแรกเลย ผมก็ไปโหลดแอป Palfish มาลงในแท็บเล็ตก่อนเลยครับ เปิดแอปมาครั้งแรกก็รู้สึกว่าเออ…หน้าตามันก็ดูน่ารักดีนะ สีสันสดใส ตัวการ์ตูนดุ๊กดิ๊กๆ ลูกชายเห็นก็ดูตื่นเต้นนิดหน่อย
• จากนั้นก็ขั้นตอนสมัครสมาชิก กรอกข้อมูลนู่นนี่นั่นไปตามเรื่องตามราว ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากนะครับ ทำตามขั้นตอนที่แอปมันบอกไปเรื่อยๆ
• ทีนี้ ผมยังไม่กล้าซื้อคอร์สยาวๆ ทันทีหรอกครับ กลัวไม่คุ้ม ก็เลยมองหาคลาสทดลองเรียนฟรีก่อนเลย ซึ่งเขาก็มีให้ลองนะ อันนี้ผมว่าดีมากเลยนะที่เราจะได้ลองดูก่อนว่าลูกเราโอเคไหม ครูสอนเป็นยังไง

ประสบการณ์ครั้งแรกกับ Palfish มันเป็นยังไง?

พอจองคลาสทดลองได้ปุ๊บ ผมก็จัดแจงเตรียมสถานที่ เตรียมแท็บเล็ตให้ลูกพร้อมเลยครับ ตื่นเต้นเหมือนกันนะว่าจะออกมาเป็นยังไง ครูคนแรกที่เจอน่าจะเป็นครูชาวฟิลิปปินส์ พูดภาษาอังกฤษคล่องมาก สำเนียงก็ฟังง่ายอยู่ พลังงานนี่เหลือล้นเลยครับ ชวนลูกคุยเก่งมาก มีทำท่าทางประกอบ ลูกผมจากที่นั่งเกร็งๆ ก็เริ่มมีอมยิ้มบ้าง ตอบคำถามแบบเขินๆ บ้าง แต่โดยรวมก็ดูไม่ได้ต่อต้านอะไร

พอเรียนจบคลาสทดลอง ผมก็ถามลูกว่าชอบไหม เขาก็พยักหน้าหงึกๆ บอกว่าสนุกดี ผมก็เลยรู้สึกว่าเออ…มันก็น่าจะพอไปได้นะ ดูทรงแล้วลูกน่าจะเรียนได้ ก็เลยตัดสินใจลองลงคอร์สแบบสั้นๆ ดูก่อน เอาแบบไม่ผูกมัดตัวเองมากเกินไป ลองดูสักตั้ง

ช่วงที่ให้ลูกเรียนจริงจัง มันก็มีทั้งดีและไม่ดีปนๆ กันไปครับ:

ช่วงแรกๆ ที่เรียนก็ดูโอเคเลยนะ ได้เปลี่ยนครูไปเรื่อยๆ บางคนก็สอนสนุกมาก ลูกหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลย แต่บางคนก็อาจจะดูเนือยๆ หน่อย สอนไปตามสคริปต์ อันนี้ก็แล้วแต่ดวงเลยว่าจะจองได้ครูคนไหน ครูที่สอนดีๆ ที่ลูกชอบมากๆ บางทีคิวก็เต็มยาวเหยียด จองยากชะมัดเลยครับ

เนื้อหาบทเรียนเขาก็มีเป็นบทๆ ไปนะ มีเพลง มีเกมให้เล่น มีภาพการ์ตูนประกอบตลอด ลูกผมก็ชอบตรงที่มีให้สะสมดาว มีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เนี่ยแหละครับ เหมือนเป็นแรงจูงใจให้เขาอยากเรียน

แล้วสรุปว่า Palfish Class ดีไหม? จากใจคนจ่ายตังค์จริง

ถ้าถามผมตรงๆ เลยนะว่า Palfish ดีไหม? สำหรับบ้านผมนะ ผมว่ามันก็มีทั้งส่วนที่ชอบและส่วนที่ยังรู้สึกว่าเอ๊ะ…ยังไงอยู่นะ มันไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีไปซะทุกอย่างหรอกครับ

สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันโอเคเลย:

• ความสะดวกสบาย: อันนี้คือข้อดีหลักๆ เลยครับ เรียนที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพาลูกเดินทางไปเรียนข้างนอก ยิ่งช่วงรถติดๆ นะ ประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก
• ได้เรียนกับครูต่างชาติ: ก็ถือว่าลูกได้มีโอกาสฟังสำเนียงเจ้าของภาษาจริงๆ บ้าง ถึงแม้บางทีลูกผมจะฟังไม่ทัน ต้องคอยสะกิดถามผมก็เถอะ 555
• ลูกมีส่วนร่วม (ในบางครั้ง): ถ้าเจอครูที่สอนสนุกๆ เข้าขากับลูกได้ ลูกผมก็จะดูแฮปปี้กับการเรียนมากครับ มีโต้ตอบ มีหัวเราะ

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันยังเป็นข้อที่ต้องคิดหนักหน่อย:

• เรื่องค่าใช้จ่าย: ก็แอบรู้สึกว่าราคามันก็เอาเรื่องอยู่นะครับ ถ้าเทียบกับคุณภาพครูที่บางทียังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่ บางคนดีมาก บางคนก็กลางๆ
• ความสม่ำเสมอของคุณภาพครู: อย่างที่บอกไปครับ บางทีจองคลาสไปก็ลุ้นเหมือนกันว่าจะได้ครูแบบไหน ครูที่ลูกชอบมากๆ ก็ดันจองยากซะอีก
• ปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต: อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องเจออยู่แล้วกับการเรียนออนไลน์ นานๆ ทีจะมีบ้างแบบเสียงครูขาดๆ หายๆ หรือภาพค้างไปเลย ก็ต้องทำใจนิดนึงครับ
• สมาธิของเด็ก: ลูกผมบางทีก็สมาธิสั้นง่ายมากครับ เรียนๆ อยู่หันไปสนใจของเล่นข้างๆ เฉยเลย ผมนี่ต้องนั่งประกบอยู่ข้างๆ ตลอด คอยดึงความสนใจเขากลับมาที่หน้าจอ

เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งครับ อันนี้จำได้แม่นเลย จองครูคนโปรดของลูกไว้ดิบดี พอถึงเวลาเรียนจริงๆ ครูไม่เข้าสอนครับ! รอแล้วรอเล่าครูก็ไม่มา ลูกนี่หน้าจ๋อยเลย ผมก็ต้องรีบติดต่อเจ้าหน้าที่เขาไป ก็ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าจะเคลียร์กันรู้เรื่อง สุดท้ายเขาก็คืนคลาสเรียนมาให้นะครับ แต่มันก็เสียความรู้สึกไปนิดหน่อยเหมือนกัน

สรุปเลยแล้วกันนะครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมล้วนๆ

ถ้ามีคนมาถามผมว่า Palfish Class ดีไหม? ผมคงตอบว่ามันก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่พอใช้ได้สำหรับการเริ่มต้นนะครับ ถ้าอยากให้ลูกได้ลองคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ ได้ลองคุยกับครูต่างชาติดูบ้าง แต่ก็ต้องดูงบประมาณในกระเป๋าของเราด้วย แล้วก็อาจจะต้องทำใจเผื่อไว้บ้างกับเรื่องความไม่แน่นอนบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น

ผมว่ามันไม่มีอะไรที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่ามันเหมาะกับลูกของเรา กับสไตล์ของครอบครัวเราหรือเปล่า มากกว่า บางคนอาจจะใช้แล้วชอบมาก บอกว่าคุ้มค่าสุดๆ แต่สำหรับบ้านผม ผมให้กลางๆ ครับ ได้ลองแล้วก็รู้ ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่จนรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น ตอนนี้ก็เลยพักการเรียนกับ Palfish ไปก่อน กำลังมองหาแนวทางอื่น หรืออาจจะลองแอปฯ อื่นๆ ให้ลูกอยู่เหมือนกันครับ

ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์ตรงๆ ที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อใครกำลังมองหาข้อมูลหรือกำลังตัดสินใจอยู่ ก็ลองเอาเรื่องของผมไปพิจารณาประกอบดูได้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ