สวัสดีครับทุกคน วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ กับ Palfish Class นะครับ หลายคนถามมาเยอะว่าดีไหม คำตอบของผมก็คือ มันก็มีทั้งดีและก็มีส่วนที่ต้องคิดหนักเหมือนกันครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มเลย

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมลอง Palfish

คือช่วงนั้นผมกำลังมองหางานเสริมที่ทำจากที่บ้านได้ แล้วก็เห็นโฆษณา Palfish ผ่านตาบ่อยๆ ดูน่าสนใจดีนะ สอนภาษาอังกฤษเด็กๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ต้องเดินทาง ผมก็เลยคิดว่า เออ ลองดูซักตั้ง มันจะเป็นยังไง

ขั้นตอนการสมัครและเตรียมตัว

ผมก็เริ่มจากเข้าไปดาวน์โหลดแอป Palfish Teacher มาก่อนเลยครับ แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่เขาระบุไว้ หลักๆ ก็จะมี

• กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป
• อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน พวกบัตรประชาชน ใบรับรองการสอน (ถ้ามี TESOL/TEFL ก็จะดีมาก)
• อัดวิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ อันนี้สำคัญเลยครับ เขาจะดูสำเนียง ท่าทาง ความมั่นใจของเรา
• ทำเดโมสอน อันนี้เขาจะมีบทเรียนตัวอย่างมาให้เราลองสอน แล้วก็อัดวิดีโอส่งไป

บอกตรงๆ ว่าตอนทำเดโมแอบเกร็งนิดหน่อย เพราะเราไม่เห็นเด็กจริงๆ ต้องจินตนาการเอาเองว่ากำลังสอนเด็กอยู่ แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่ครับ โชว์พลัง โชว์ความสนุกสนานเข้าไป หลังจากส่งเอกสารกับวิดีโอไป ก็รอผลประมาณอาทิตย์นึงได้มั้งครับ โชคดีที่ผมผ่านฉลุย

เริ่มสอนจริงวันแรกๆ และการปรับตัว

พอผ่านแล้ว เขาก็จะมีอบรมออนไลน์เล็กน้อยครับ สอนการใช้ระบบ การเปิดสล็อตเวลาสอน การดูสื่อการสอน ซึ่งสื่อการสอนส่วนใหญ่เขาเตรียมไว้ให้แล้ว เป็นสไลด์ มีเพลง มีเกม ก็สะดวกดีครับ เราไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะแยะ

วันแรกๆ ที่เปิดสล็อตสอน ใจเต้นตึ้กตั้กเลยครับ กลัวไม่มีนักเรียนจอง แต่ก็มีเข้ามาบ้างประปราย ส่วนใหญ่เป็นคลาสทดลองเรียนฟรีที่ทาง Palfish หามาให้ พอได้สอนจริงก็สนุกดีครับ เด็กๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่จีน อายุประมาณ 3-12 ขวบ เราก็ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อย ทำให้คลาสสนุก ไม่น่าเบื่อ บางทีก็ต้องทำเสียงเล็กเสียงน้อย ร้องเพลง เต้นประกอบบ้าง

ช่วงแรกๆ ผมก็ยังจับทางไม่ค่อยถูกครับ บางทีก็เน้นสอนเนื้อหามากไป จนลืมเอ็นเตอร์เทนเด็ก หรือบางทีก็เล่นเยอะไปจนเนื้อหาไม่ค่อยเดิน แต่ทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจับจุดได้เองครับ ว่าเด็กแต่ละคนชอบแบบไหน ต้องปรับวิธีการสอนยังไง

ข้อดีที่ผมเจอจากการสอน Palfish

• ความยืดหยุ่นเรื่องเวลา: อันนี้ชอบมาก เราเลือกเปิดสล็อตสอนเองได้เลย สะดวกตอนไหนก็เปิดตอนนั้น เหมาะกับคนที่อยากหารายได้เสริมมากๆ
• ทำงานจากที่ไหนก็ได้: ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตแรงๆ กับมุมสงบๆ ก็สอนได้แล้วครับ ประหยัดเวลาเดินทางไปเยอะ
• สื่อการสอนพร้อม: ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมสื่อเองเยอะ เขาจัดมาให้ค่อนข้างดี
• ได้ฝึกภาษา: ถึงเราจะสอนเขา แต่เราก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลาเหมือนกันนะ

ข้อที่ต้องพิจารณา (หรือข้อเสียในมุมของผม)

• รายได้ไม่แน่นอน: อันนี้เรื่องใหญ่เลยครับ จำนวนคลาสที่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมาก ทั้งโปรไฟล์ของเรา รีวิวจากผู้ปกครอง ช่วงเวลาที่เปิดสอน (เด็กจีนจะเรียนเยอะช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียน หรือวันหยุด) บางเดือนก็ได้เยอะ บางเดือนก็น้อยจนใจหายเหมือนกัน
• การแข่งขันสูง: ครูเยอะมากครับ เราต้องพยายามทำให้โปรไฟล์เราเด่น ต้องแอคทีฟ มีรีวิวดีๆ ถึงจะมีโอกาสได้นักเรียนประจำเยอะ
• ต้องใช้พลังงานสูง: สอนเด็กเล็กต้องใช้พลังงานเยอะจริงๆ ครับ บางทีสอนติดๆ กันหลายคลาส เสียงแหบเสียงแห้งไปเลยก็มี
• นโยบายและการเปลี่ยนแปลง: บางทีทางแพลตฟอร์มก็มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย หรือระบบต่างๆ ซึ่งเราก็ต้องคอยตามข่าวและปรับตัวครับ
• การหักค่าธรรมเนียม: รายได้ที่เราได้ จะมีการหักค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มด้วยนะครับ ต้องคำนวณดีๆ

สุดท้ายแล้ว Palfish Class ดีไหม?

ถ้าถามผมตอนนี้ ผมว่า มันก็เป็นช่องทางหารายได้เสริมที่ดีช่องทางหนึ่งครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบสอนเด็ก มีความอดทนสูง และรับได้กับความไม่แน่นอนของรายได้ แต่ถ้าจะให้ยึดเป็นรายได้หลักเลย อาจจะต้องพยายามหนักมากๆ และสร้างฐานนักเรียนประจำให้ได้เยอะจริงๆ

ส่วนตัวผมเอง ตอนนี้ก็ยังเปิดสอนบ้างครับ แต่ไม่ได้คาดหวังเป็นรายได้หลักแล้ว ถือว่าเป็นงานอดิเรกที่ได้เงินด้วย ได้ฝึกภาษาด้วยมากกว่า ใครที่สนใจก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะๆ ครับ ดูว่าไลฟ์สไตล์ของเราเหมาะกับงานแบบนี้หรือเปล่า หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ