สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่อง PalFish Class ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา หรือกำลังลังเลอยู่ว่าเอ๊ะ มันดีจริงไหม คุ้มค่ารึเปล่า
ประสบการณ์ตรง ลองใช้ PalFish Class
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นลูกผมกำลังเห่ออยากเรียนภาษาอังกฤษ แล้วเราก็งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาพาไปเรียนพิเศษข้างนอก เลยเริ่มมองหาคลาสออนไลน์นี่แหละครับ ตอนแรกก็เห็นโฆษณา PalFish Class ผ่านๆ ในเฟซบุ๊กบ้างอะไรบ้าง ดูน่าสนใจดีนะ มีครูต่างชาติ รูปภาพสีสันสดใส ดึงดูดเด็กๆ
ขั้นตอนการเริ่มใช้งาน
ผมก็เลยลองตัดสินใจโหลดแอปมาดูครับ ขั้นตอนการสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร กรอกข้อมูลลูกนิดหน่อย แล้วก็มีให้เลือกคอร์สเรียน ผมจำได้ว่าตอนนั้นมีให้ทดลองเรียนฟรีก่อนด้วยนะ ก็เลยไม่รอช้า กดจองคลาสทดลองไปเลย
- โหลดแอป PalFish Class มาติดตั้งในแท็บเล็ตของลูก
- สมัครบัญชีผู้ใช้งาน กรอกข้อมูลส่วนตัวของลูกนิดหน่อย
- มองหาคลาสทดลองเรียนฟรี (อันนี้สำคัญมาก!)
- เลือกวันเวลาที่สะดวก แล้วก็จองคลาสไป
วันทดลองเรียนจริง
พอถึงวันนัด ลูกผมนี่ตื่นเต้นใหญ่เลยครับ เปิดแอปมารอครูเลย พอถึงเวลาครูก็เข้ามาในห้องเรียนออนไลน์ เป็นครูต่างชาติจริงๆ ด้วยครับ สำเนียงดีเลยแหละ ครูเขาก็พยายามชวนคุย ชวนเล่นเกมง่ายๆ ผ่านหน้าจอ ลูกผมก็ดูสนุกนะ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลย คลาสทดลองสั้นๆ ประมาณ 25 นาที ก็จบไปแบบแฮปปี้
หลังจากทดลองเรียน
หลังจากทดลองเรียนเสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาสอบถามฟีดแบ็ก แล้วก็แนะนำคอร์สเรียนต่างๆ ให้ คือราคาก็แอบแรงอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเทียบกับคลาสออนไลน์อื่นๆ แต่ด้วยความที่ลูกชอบ แล้วครูดูมีคุณภาพ เราก็เลยตัดสินใจลงคอร์สสั้นๆ ไปก่อน ลองดูสักตั้ง
ช่วงที่เรียนจริงจังกับ PalFish Class
พอเริ่มเรียนจริงจัง ก็มีหลายอย่างที่อยากจะแชร์ครับ
ข้อดีที่เจอ:
- ความสะดวกสบาย: อันนี้ยกให้เลย ไม่ต้องเดินทาง อยู่บ้านก็เรียนได้ ประหยัดเวลาไปเยอะ
- ครูผู้สอน: ส่วนใหญ่ครูที่เจอมาก็ค่อนข้างดีนะครับ มีความเป็นมืออาชีพ สอนสนุก ลูกไม่เบื่อเลย บางคนนี่ลูกติดมาก อยากเรียนด้วยทุกครั้ง
- เนื้อหาบทเรียน: ก็มีเกม มีเพลง มีกิจกรรมให้ทำตลอดบทเรียน ไม่ใช่สอนแบบน่าเบื่อ ลูกก็ได้ฝึกพูดจริงๆ
- การเลือกครู: เราสามารถเลือกครูเองได้ ถ้าเจอครูที่ถูกใจ ก็สามารถจองเรียนกับครูคนนั้นซ้ำๆ ได้ (ถ้าคิวครูไม่เต็มนะ)
ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
- ราคา: อย่างที่บอกไป ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเทียบเป็นรายครั้ง อาจจะต้องดูงบประมาณของเราด้วย
- ความสม่ำเสมอของครู: บางทีครูคนโปรดของเราคิวเต็ม หรือลาพักร้อน ก็ต้องเปลี่ยนไปเรียนกับครูคนอื่น ซึ่งบางทีสไตล์การสอนอาจจะไม่เหมือนเดิม ลูกอาจจะต้องปรับตัวบ้าง
- ปัญหาทางเทคนิค: นานๆ ทีจะมีบ้างครับ เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตฝั่งครูไม่ดี หรือแอปค้างบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่บ่อยจนน่ารำคาญ
- การบ้าน: มีการบ้านให้ทำหลังเลิกเรียนด้วยนะ บางทีลูกก็ขี้เกียจทำ เราก็ต้องคอยกระตุ้น
สรุปแล้ว PalFish Class ดีไหม?
ถ้าถามผมว่า PalFish Class ดีไหม ผมคงตอบว่า “มันก็มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องพิจารณา” ครับ
ถ้าคุณพ่อคุณแม่มองหาคลาสเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่สะดวก ครูเป็นชาวต่างชาติ มีกิจกรรมให้ลูกสนุกสนาน และไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ PalFish Class ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ ลูกผมก็ได้ประโยชน์จากการเรียนพอสมควรเลยนะ กล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น
แต่ถ้ายังลังเลเรื่องราคา หรืออยากได้ความยืดหยุ่นมากๆ อาจจะต้องลองเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ ดูก่อนครับ หรือวิธีที่ดีที่สุดคือ ลองใช้คลาสทดลองเรียนฟรีดูก่อน อย่างที่ผมทำ จะได้รู้ว่ามันเหมาะกับลูกเราและสไตล์การเรียนรู้ของเขาจริงๆ รึเปล่า
สุดท้ายแล้ว การเรียนภาษาไม่ว่าจะแบบไหน สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอและการสนับสนุนจากครอบครัวครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจอยู่นะครับ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments