Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
Share:

คำศัพท์ในภาษาอังกฤษมีหลากหลายประเภท บางคำมีรากศัพท์มาจากภาษาอื่น บางคำเกิดจากการรวมคำศัพท์หลายคำเข้าด้วยกัน ซึ่งคำศัพท์ประเภทหนึ่งที่พบเจอได้บ่อยคือคำศัพท์ที่มี Prefix Suffix รวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับรากศัพท์เดิมแล้วจะทำให้ความหมายของคำนั้นเปลี่ยนไป Prefix และ Suffix เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคนควรรู้จักและทำความเข้าใจ มารู้จัก Prefix Suffix ให้มากขึ้น พร้อมกับตัวอย่างและหลักการใช้ที่ถูกต้องกัน

Prefix Suffix คืออะไร หน่วยคำ Affix ที่ต้องรู้

ก่อนที่จะไปรู้จัก Prefix Suffix เราต้องเข้าใจองค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนว่าคำ 1 คำจะประกอบด้วยคำหลัก (Root word) และหน่วยคำ (Affix) ซึ่งเป็นคำเล็ก ๆ ที่เติมเข้าไปในคำหลักเพื่อเปลี่ยนความหมายของคำนั้น ๆ

Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย

หน่วยคำหรือ Affix แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Prefix และ Suffix โดย Prefix คือหน่วยคำที่เติม “หน้าคำหลัก” ส่วน Suffix คือหน่วยคำที่เติม “ท้ายคำหลัก” ทั้งสองชนิดไม่สามารถใช้แยกเดี่ยว ๆ ได้ต้องใช้ร่วมกับคำหลักเสมอ 

ทั้ง Suffix และ Prefix มีความสำคัญต่อการเรียน Grammar และการเรียนเขียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากเป็นเรื่องพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์ การแต่งประโยค รวมถึงการเขียนที่จำเป็นต่อการเรียน การสอบวัดระดับภาษา และการทำงาน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ขยายคลังคำศัพท์ เพิ่มความเข้าใจเชิงโครงสร้าง ช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Prefix คืออะไร

Prefix คือหน่วยคำเล็ก ๆ ที่เติมด้านหน้าของคำหลักแล้วทำให้ความหมายเปลี่ยนไป 

ตัวอย่าง Prefix 

  • extra แปลว่า เหนือกว่า
    ตัวอย่างคำศัพท์: extraordinary (เหนือธรรมดา, พิเศษ), extravagant (ฟุ่มเฟือย / เกินความจำเป็น), extracurricular (นอกหลักสูตร)
  • un แปลว่า  ไม่ / ปฏิเสธ
    ตัวอย่างคำศัพท์: unhappy (ไม่มีความสุข), uncomfortable (ไม่สบาย / อึดอัด), unfriendly (ไม่เป็นมิตร)
  • inter แปลว่า ระหว่าง
    Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
    ตัวอย่างคำศัพท์: international (ระหว่างประเทศ) และ interview (การสัมภาษณ์ระหว่างคนสองฝ่าย, interpersonal (ระหว่างบุคคล)

คำศัพท์และหลักการใช้ Prefix

1. Prefix บอกจำนวน 

Prefix ที่มีบอกจำนวนความหมายในเชิงบอกจำนวน สังเกตได้จากคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย uni, mono, bi, du, tri, quart, penta, poly, multi 

ตัวอย่างคำศัพท์

  • uni + body = unibody (ชิ้นเดียว, ตัวเดียว)
  • mono + rail = monorail (รถไฟรางเดี่ยว)
  • bi + lingual = bilingual (สองภาษา)
  • tri + angle = triangle (สามเหลี่ยม)
  • multi + color = multicolor (หลายสี)
  • multi + task = multitask (ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน)

2. Prefix บอกขนาด 

Prefix ที่มีความหมายเชิงบอกขนาด สังเกตได้จากคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย hyper, over, extra, mini, micro, mega, ultra 

ตัวอย่างคำศัพท์

  • hyper + market = hypermarket (ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่)
  • over + load = overload (มากเกินรับได้)
  • extra + ordinary = extraordinary (เหนือธรรมดา, พิเศษ)
  • mini + mart = minimart (ร้านค้าขนาดเล็ก)
  • micro + scope = microscope (กล้องจุลทรรศน์)

3. Prefix บอกคำเชิงปฏิเสธ

Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย

Prefix ที่มีความหมายเชิงปฏิเสธ สังเกตได้จากคำศัพท์คำที่ขึ้นด้วย a, un, dis, mis, non, in, im, il, ir ซึ่ง Prefix เหล่านี้มีความหมายว่า ไม่, ผิด, ปราศจาก 

ตัวอย่างคำศัพท์

  • in + convenience = inconvenience (ความไม่สะดวก)
  • un + comfortable = uncomfortable (ความไม่สบาย, อึดอัด)
  • ir + resistible = irresistible (ไม่อาจต้านทานได้)
  • dis + agree = disagree (ไม่เห็นด้วย)
  • im + possible = impossible (เป็นไปไม่ได้)

4. Prefix บอกตำแหน่ง เวลา และลำดับ

Prefix กลุ่มที่มีความหมายเชิงบอกตำแหน่ง เวลา และลำดับ สังเกตได้จากคำศัพท์คำที่ขึ้นด้วย pre, fore, inter, mid, post, re, sub 

ตัวอย่างคำศัพท์

  • pre + order = preorder (สั่งของล่วงหน้า)
  • inter + national = international (ระหว่างประเทศ)
  • mid + night = midnight (เที่ยงคืน)
  • re + cycle = recycle (นำมาใช้ซ้ำ)
  • sub + title = subtitle (ตัวอักษรที่อยู่ด้านล่าง)

5. Prefix อื่น ๆ

นอกจาก Prefix ทั้ง 4 กลุ่มข้างต้นแล้ว ยังมี Prefix อื่น ๆ ที่พบเห็นได้บ่อย เช่น 

Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
  • mal แปลว่า ผิดปกติ, ไม่ดี ตัวอย่างคำศัพท์ malfunction = mal + function ความหมายของคำนี้คือ ทำงานผิดปกติ
  • auto แปลว่า ด้วยตนเอง, ตนเอง ตัวอย่างคำศัพท์ autopilot = auto + pilot ความหมายของคำนี้คือ ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
  • co แปลว่า ร่วมกัน, ด้วยกัน ตัวอย่างคำศัพท์ cooperate = co + operate ความหมายของคำนี้คือ ทำงานร่วมกัน
  • pseudo แปลว่า เทียม, ปลอม ตัวอย่างคำศัพท์ pseudocode = pseudo + code ความหมายของคำนี้คือ รหัสปลอม

กฎการใช้ Prefix

  1. ไม่เปลี่ยนการสะกดของคำเดิม: คำหลักต้องคงรูปเดิมเสมอ และควรปฏิบัติตามกฎนี้ทุกครั้งแม้ตัวอักษะจะซ้ำกันก็ตาม เช่น
    • disappear (dis + appear)
    • unhappy (un + happy)
    • undo (un + do) 
  2. การใช้ขีด (-): เมื่อต้องการใช้ Prefix นำหน้าคำนามเฉพาะ (Proper Noun) หรือคำที่ต้องการเน้น สามารถใช้ขีด (-) เพื่อเพิ่มความชัดเจนในการอ่านและความหมายได้ เช่น 
    • self-esteem (นับถือตัวเอง)
    • ex-husband (อดีตสามี) 
  3. ใช้ขีด (-) ช่วยป้องกันความสับสน: สามารถใช้ขีด (-) เพื่อป้องกันการอ่านออกเสียงแบบผิด ๆ หรือสร้างความสับสนกับคำอื่น ๆ ได้ เช่น 
    • re-cover (คลุมอีกครั้ง) ควรใส่ขีดเพื่อไม่ให้สับสนกับ recover (กู้คืน/ฟื้นตัว) ที่มีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง

ข้อควรระวังในการใช้ Prefix

การใช้ Prefix มีข้อควรระวังที่ต้องสังเกตให้ดี ๆ เนื่องจากบางคำศัพท์ดูเผิน ๆ เหมือนมีการใช้ Prefix นำหน้าแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ Prefix ตัวอย่างเช่น

  • alike แปลว่า เหมือนกัน คำนี้ไม่ได้มาจาก a + like และไม่ได้มีความหมายเชิงปฏิเสธแต่อย่างใด 
  • invoke แปลว่า วิงวอน, ร้องขอ, อ้อนวอน คำนี้ไม่ได้มาจาก in + voke และไม่ได้มีความหมายเชิงปฏิเสธเช่นกัน

ประโยชน์ของการรู้ Prefix

การรู้ Prefix (คำอุปสรรค) มีประโยชน์อย่างมากในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจคำศัพท์ใหม่ ๆ และการสร้างคำศัพท์ที่ซับซ้อนขึ้น ประโยชน์หลัก ๆ มีดังนี้

Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
  • ช่วยให้เดาความหมายของคำศัพท์ใหม่ได้ง่ายขึ้น Prefix เป็นส่วนหนึ่งของคำที่อยู่ด้านหน้าและมีความหมายเฉพาะตัว เมื่อเราเข้าใจความหมายของ Prefix เราจะสามารถเดาความหมายโดยรวมของคำศัพท์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ เช่น
    1. “un-“ หมายถึง “ไม่” หรือ “ตรงกันข้าม” (เช่น unhappy = ไม่มีความสุข, undo = ยกเลิก)
    2. “re-“ หมายถึง “อีกครั้ง” หรือ “ย้อนกลับ” (เช่น rewrite = เขียนใหม่, return = กลับมา)
    3. “pre-“ หมายถึง “ก่อน” (เช่น pre-order = สั่งจองล่วงหน้า, predict = ทำนาย)
  • เพิ่มคลังคำศัพท์ เมื่อเข้าใจ Prefix เราจะสามารถขยายคลังคำศัพท์ของเราได้อย่างรวดเร็ว เพราะ Prefix ตัวเดียวสามารถนำไปประกอบกับ Root Word (รากศัพท์) หรือ Suffix (คำปัจจัย) ได้หลายคำ ทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่มีความหมายเกี่ยวข้องกัน
  • ช่วยในการสะกดคำและจำคำศัพท์ การรู้ว่าคำนั้นมี Prefix อะไร จะช่วยให้จำรูปแบบการสะกดคำได้ง่ายขึ้นและลดความผิดพลาดในการสะกด

    Suffix คืออะไร

    Suffix คือหน่วยคำเล็ก ๆ ที่เติมด้านท้ายของคำหลักแล้วทำให้ความหมายของคำศัพท์ชัดเจนขึ้นหรือเปลี่ยนไป เช่น เปลี่ยนจากคำกริยาให้เป็นนาม เปลี่ยนจากคำคุณศัพท์ให้เป็นคำนาม หรือเปลี่ยนจากคำนามเป็นคำคุณศัพท์ เป็นต้น

    คำศัพท์และหลักการใช้  Suffix

    Suffix สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มตามหลักการเปลี่ยนแปลงความหมายของคำศัพท์ มาดูกันว่ากลุ่มของ Suffix มีอะไรบ้าง ดังนี้

    1. Noun Suffix

    Noun Suffix คือ Suffix ที่เปลี่ยนคำนั้นให้เป็นคำนาม สังเกตได้จากคำที่ลงท้ายด้วย -ship, -ee, -ness, -dom, -hood, -al, -er, -or, -tion, -sion

    Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย

    ตัวอย่างคำศัพท์ Noun Suffix

    • partnership มาจากคำว่า partner + ship แปลว่า ห้างหุ้นส่วน
    • brotherhood มาจากคำว่า brother + hood แปลว่า ความเป็นพี่น้อง
    • happiness มาจากคำว่า happy + ness แปลว่า ความสุข
    • trainee มาจากคำว่า train + ee แปลว่า ผู้ฝึกงาน
    • teacher มาจากคำว่า teach + er แปลว่า ครู

    2. Adjective Suffix

    Adjective Suffix คือ Suffix ที่เปลี่ยนคำนั้นเป็นคำคุณศัพท์ สังเกตได้จากคำที่ลงท้ายด้วย -able, -ible, -al, -en, -ful, -ish, -less, -ly, -ous

    ตัวอย่างคำศัพท์ Adjective Suffix

    • readable มาจากคำว่า read + able แปลว่า อ่านได้
    • natural มาจากคำว่า nature + al แปลว่า เป็นธรรมชาติ
    • wooden มาจากคำว่า wood + en แปลว่า ทำด้วยไม้
    • hopeless มาจากคำว่า hope + less แปลว่า สิ้นหวัง, ไม่มีความหวัง
    • dangerous มาจากคำว่า danger + ous แปลว่า อันตราย

    3. Verb Suffix

    Verb Suffix คือ Suffix ที่เปลี่ยนคำนั้นเป็นกริยา สังเกตได้จากคำที่ลงท้ายด้วย -ate, -en,-ise, ize, -ify 

    ตัวอย่างคำศัพท์ Verb Suffix

    Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
    • activate มาจากคำว่า active + ate แปลว่า กระตุ้นให้ทำงาน
    • strengthen มาจากคำว่า strenth + en แปลว่า ทำให้แข็งแรงขึ้น
    • identify มาจากคำว่า identity + ify แปลว่า แสดงตัว, ระบุตัว
    • optimize มาจากคำว่า optimal + ize แปลว่า ปรับให้ดีขึ้น

    4. Adverb Suffix

    Adverb Suffix คือ Suffix ที่เปลี่ยนคำนั้นเป็นกริยาวิเศษณ์ สังเกตได้จากคำที่ลงท้ายด้วย -ly, -ward, -wise 

    ตัวอย่างคำศัพท์ Adverb Suffix

    • quickly มาจากคำว่า quick + ly แปลว่า อย่างรวดเร็ว
    • easily มาจากคำว่า easy + ly แปลว่า อย่างง่ายดาย
    • forward มาจากคำว่า fore + ward แปลว่า ไปข้างหน้า
    • backward มาจากคำว่า back + ward แปลว่า ย้อนกลับหลัง
    • clockwise มาจากคำว่า clock + wise แปลว่า ตามเข็มนาฬิกา

    กฎการใช้ Suffixes

    โดยทั่วไปแล้วเราจะเติม Suffix ต่อท้ายคำเดิมโดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างของคำนั้น เช่น hope เป็น hopeful หรือ care เป็น careless แต่ก็มีข้อยกเว้นบางกรณี ดังนี้

    1. ถ้าคำหลักลงท้ายด้วย “y” และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i ก่อนเติม Suffix เช่น
      • happy เป็น happiness
      • lazy เป็น laziness
      • beauty เป็น beautiful

    ยกเว้นถ้า Suffix ที่เติมขึ้นต้นด้วย i อยู่แล้ว เช่น -ing  ไม่ต้องเปลี่ยน y เป็น i ก่อน สามารถเติม -ing ลงในคำหลักได้ทันที เช่น study เป็น studying

    1. ถ้าคำหลักลงท้ายด้วย “e” ให้ ตัด e ทิ้งก่อนเติม Suffix ที่ขึ้นต้นด้วยสระ ตัวอย่างเช่น
      Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
      • make เป็น making
      • hope  เป็น hoping
      • create เป็น creation

    ยกเว้นถ้า Suffix เริ่มด้วยพยัญชนะ ให้คง e ไว้ เช่น care เป็น careless, safe เป็น safety

    1. ถ้าคำหลักเป็นคำพยางค์เดียวและลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียว ให้เติมซ้ำพยัญชนะตัวสุดท้ายเพิ่มอีก 1 ตัวก่อนเติม Suffix ตัวอย่างเช่น
      • run เป็น running
      • sit เป็น sitting
      • plan เป็น planned

    ข้อควรระวังในการใช้ Suffix

    1. การเติม Suffix อาจไม่ได้เปลี่ยนความหมายของคำหลักเสมอไป แต่จะขยายหรือลดระดับของความหมาย ตัวอย่าง
      • use + ful = useful หมายความว่า มีประโยชน์
      • use + less = useless หมายความว่า ไร้ประโยชน์
    2. คำหลักบางคำอาจใส่ Suffix ได้มากกว่า 1 ชนิด เช่นคำว่า read ตัวอย่าง
      • read + able = readable (เป็น Suffix Adjective) ความหมายคือ อ่านได้
      • read + er = reader (เป็น Suffix Noun) ความหมายคือ ผู้อ่าน

    จะเห็นได้ว่าทั้งสองคำมีความหมายต่างกัน ต้องเลือกใช้ในแต่ละบริบทให้ถูกต้อง

    1. การใช้ Suffix ตัวเดียวอาจให้ความหมายแตกต่างกัน เช่น Suffix คำว่า -less ตัวอย่าง
      Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย
      • Worthless แปลว่า ซึ่งไร้ค่า
      • Priceless แปลว่า ประเมินค่าไม่ได้

    การตีความหมายของคำใช้จึงต้องสังเกตบริบทของประโยคควบคู่ไปด้วย

    ประโยชน์ของการรู้ Suffix

    การรู้ Suffix มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมากในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับการรู้ Prefix ประโยชน์หลัก ๆ มีดังนี้

    • ระบุประเภทของคำ (Part of Speech) Suffix เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดว่าคำนั้นเป็นคำประเภทใด (เช่น คำนาม, คำกริยา, คำคุณศัพท์, คำวิเศษณ์) การรู้ Suffix ช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างประโยคและไวยากรณ์ได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น
      1. -tion, -sion, -ment, -ness, -ity ใช้กับคำนาม (e.g., information, decision, enjoyment, happiness, ability)
      2. -able, -ible, -ful, -less, -ous ใช้กับคำคุณศัพท์ (e.g., comfortable, sensible, beautiful, harmless, dangerous)
      3. -ly ใช้กับคำวิเศษณ์ (e.g., quickly, happily, easily)
      4. -ize, -fy, -en, -ate ใช้กับคำกริยา (e.g., standardize, clarify, widen, activate)
    • เปลี่ยนความหมายและประเภทของคำ Suffix สามารถเปลี่ยนความหมายหรือประเภทของคำได้ ทำให้เราสามารถสร้างคำศัพท์ใหม่ ๆ จากรากศัพท์เดิมได้ ตัวอย่างเช่น
      1. Act (คำกริยา) → Action (คำนาม), Active (คำคุณศัพท์), Actively (คำวิเศษณ์)
      2. Happy (คำคุณศัพท์) → Happiness (คำนาม), Happily (คำวิเศษณ์)
    • ช่วยให้เดาความหมายของคำศัพท์ใหม่ แม้จะไม่ใช่การเดาความหมายโดยตรงเหมือน Prefix แต่การรู้ Suffix ช่วยให้เราเข้าใจ หน้าที่ หรือ ลักษณะ ของคำนั้น ๆ ทำให้สามารถตีความประโยคได้ถูกต้องมากขึ้น และหากเรารู้รากศัพท์ด้วย ก็จะสามารถเดาความหมายโดยรวมได้แม่นยำยิ่งขึ้น

      Prefixes Suffixes เคล็ดลับสู่คำศัพท์แน่น ที่สถาบัน สอนภาษา Englishparks

      หากต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบให้ได้คะแนนดี หรือเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบวัดระดับภาษา และการเข้าใจ Prefix Suffix คือพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้น คอร์สเรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานของ Englishparks เหมาะกับผู้ที่กำลังเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ เพราะจะช่วยให้คุณจะได้ฝึกใช้ Prefix และ Suffix อย่างถูกต้อง พร้อมเทคนิคช่วยเดาคำศัพท์และเพิ่มคลังคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นการปูพื้นฐานด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษและ Grammar เพื่อเตรียมสอบวัดระดับภาษา หรือต่อยอดไปเรียนคอร์สอื่น ๆ ได้อีกมากมาย

      Prefix Suffix มีหลักการใช้อย่างไร พร้อมตัวอย่างที่พบเจอได้บ่อย

      Prefix Suffix องค์ประกอบสำคัญของภาษาอังกฤษ

      Prefixes และ Suffixes เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของภาษาอังกฤษ การเรียนรู้หลักการใช้ Prefix Suffix อย่างถูกต้องจะช่วยให้เข้าใจและเก่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้น เป็นการปูพื้นฐานไปสู่การเรียน Grammar และต่อยอดไปเรียนภาษาอังกฤษขั้นสูงสำหรับเตรียมสอบวัดระดับภาษา อาทิ TOEIC, IELTS, CU TEP และอีกมากมาย 

      Englishparks เป็นสถาบันสอนภาษาที่เชี่ยวชาญด้านการปูพื้นฐานภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ เรามีคอร์สที่ออกแบบมาสำหรับผู้เรียนทุกระดับตั้งแต่คอร์สเรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบวัดระดับภาษาต่าง ๆ ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็เริ่มเรียนได้ สอนโดยครูชาวไทยและครูเจ้าของภาษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษ พร้อมบรรยากาศการเรียนการสอนที่เข้าใจง่าย เป็นกันเอง สามารถพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ เตรียมความพร้อมก่อนสมัครสอบ และนำความรู้ไปใช้จริงได้อย่างที่ต้องการ

      สนใจเรียนภาษาอังกฤษ ติดต่อ Englishparks ได้ที่ contact/ 

      ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

      คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

      เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

      This field is required.
      This field is required.
      กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน