การตั้งเป้าหมายการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เรื่องง่ายๆ ที่พ่อแม่ก็ทำได้เอง
การตั้งเป้าหมายการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เรื่องง่ายๆ ที่พ่อแม่ก็ทำได้เอง
Share:

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยนะ เรื่องการตั้งเป้าหมายให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษเนี่ย ตอนแรกๆ ก็มึนตึ้บเลยครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไง จับต้นชนปลายไม่ถูก กลัวลูกจะเบื่อ กลัวจะกดดันไปสารพัด

ช่วงเริ่มต้นที่สับสนปนเป

ผมก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คนแหละครับ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เพราะรู้ว่ามันสำคัญในอนาคต ก็ไปสรรหาข้อมูลมาเยอะแยะเลย ทั้งจากอินเทอร์เน็ต จากหนังสือ จากเพื่อนฝูงที่ลูกเขาเรียนเก่งๆ โอ้โห ยิ่งอ่านยิ่งงงครับ บางคนบอกต้องเริ่มจากแกรมม่า บางคนบอกให้เน้นฟังพูด บางคนบอกให้เรียนผ่านเพลง ผ่านการ์ตูน ลองทำตามไปเรื่อยเปื่อยเลยครับช่วงนั้น

การตั้งเป้าหมายการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เรื่องง่ายๆ ที่พ่อแม่ก็ทำได้เอง

ผลลัพธ์คืออะไรน่ะเหรอ? ลูกก็ดูงงๆ เหมือนผมนั่นแหละ บางทีก็สนุกแป๊บๆ แล้วก็เบื่อ บางทีก็ต่อต้านไม่อยากทำเลย ผมนี่เครียดเลยครับ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจับปูใส่กระด้ง ทำให้มันยุ่งเหยิงไปหมด ไม่ได้มีทิศทางอะไรชัดเจนเลย

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เข้าใจมากขึ้น

จนวันหนึ่งผมมานั่งคิดจริงๆ จังๆ เลยนะ ว่าที่เราทำไปทั้งหมดเนี่ย เราทำเพื่อใคร? เพื่อสนองความต้องการของเราเอง หรือเพื่อลูกกันแน่ แล้วเป้าหมายจริงๆ ของการเรียนภาษาอังกฤษของเด็กเล็กๆ มันคืออะไรกันแน่? มันไม่ใช่การสอบได้คะแนนดี หรือพูดได้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาตั้งแต่ยังเล็กหรอกนะ

ผมก็เลยเปลี่ยนวิธีคิดใหม่หมดเลยครับ เลิกเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น อันนี้สำคัญมาก เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความสนใจ ความถนัดมันต่างกัน แล้วก็เริ่มจากการสังเกตลูกตัวเองอย่างจริงจัง ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีปฏิกิริยายังไงกับภาษาอังกฤษ

ขั้นตอนที่ผมลงมือทำจริงๆ

พอเริ่มจับทางได้ ผมก็เริ่มลงมือแบบนี้ครับ:

  • คุยกับลูกแบบง่ายๆ: ถามเขาว่าชอบดูการ์ตูนเรื่องไหนเป็นภาษาอังกฤษไหม ชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษเพลงไหนบ้าง ไม่ได้บังคับนะ แต่เป็นการชวนคุย ชวนให้เขามีส่วนร่วม
  • ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่จับต้องได้: อันนี้ผมว่าเวิร์คมาก จากที่เคยคิดใหญ่ๆ ว่าต้องพูดได้เป็นประโยค ก็เปลี่ยนเป็นเป้าหมายเล็กๆ เช่น สัปดาห์นี้ขอให้ลูกรู้จักศัพท์ใหม่จากนิทานที่อ่านด้วยกันสัก 5 คำ หรือร้องเพลงภาษาอังกฤษท่อนฮุกได้สักเพลงก็ยังดี
  • ทำให้เป็นเรื่องสนุก: ผมพยายามสอดแทรกภาษาอังกฤษเข้าไปในชีวิตประจำวันแบบไม่ให้เขารู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ เช่น ตอนเล่นของเล่น ก็จะพูดชื่อของเล่นเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ชี้ชวนให้ดูสีต่างๆ แล้วบอกเป็นภาษาอังกฤษ คำง่ายๆ ที่ใช้บ่อยๆ
  • ใช้สื่อที่ลูกสนใจ: ลูกผมชอบไดโนเสาร์มาก ผมก็ไปหาหนังสือภาพไดโนเสาร์ภาษาอังกฤษง่ายๆ มาอ่านด้วยกัน หรือเปิดคลิปสั้นๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่เป็นภาษาอังกฤษให้ดู เขาจะตั้งใจดูมากเป็นพิเศษเลยครับ
  • ให้คำชมและกำลังใจ: ทุกครั้งที่ลูกพยายามพูด หรือจำคำศัพท์ได้ แม้จะเล็กน้อย ผมก็จะชมเขา ให้กำลังใจเขา ทำให้เขารู้สึกดีและอยากจะทำอีก
  • ไม่กดดันเรื่องความถูกต้อง: อันนี้ก็สำคัญครับ เด็กเล็กๆ ให้เขาได้กล้าพูดออกมาก่อน ผิดถูกไม่เป็นไร ค่อยๆ สอน ค่อยๆ แก้ไขกันไป อย่าไปดุหรือทำให้เขาเสียความมั่นใจ
  • ทำอย่างสม่ำเสมอ: ไม่ต้องทำเยอะในแต่ละวัน แต่ขอให้ทำบ่อยๆ วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำเลยครับ เหมือนหยอดกระปุกไปเรื่อยๆ

ผลลัพธ์ที่ได้เห็น

หลังจากที่ผมปรับเปลี่ยนวิธีการ และตั้งเป้าหมายให้มันเหมาะสมกับลูกมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ ลูกไม่ต่อต้านภาษาอังกฤษอีกต่อไป เขากล้าที่จะลองพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ได้ยินมา หรือบางทีก็ฮัมเพลงภาษาอังกฤษที่เคยฟัง แม้จะยังไม่ชัดถ้อยชัดคำ แต่มันคือสัญญาณที่ดีมากๆ เลยครับ

เขามองว่าภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของความสนุก ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งเคร่งเครียดเรียน แล้วผมเองก็ไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อนด้วย พอเราไม่คาดหวังสูงเกินไป แล้วมองเห็นพัฒนาการเล็กๆ น้อยๆ ของลูก มันก็มีความสุขแล้วครับ

แน่นอนว่ามันไม่ได้ราบรื่นไปซะทุกอย่างหรอกครับ บางวันเขาก็ไม่มีอารมณ์จะเรียนรู้ ไม่อยากทำ ก็ต้องปล่อยไปบ้าง อย่าไปฝืนใจมาก เดี๋ยวจะพาลเกลียดไปเลย วันไหนอารมณ์ดีก็ค่อยว่ากันใหม่

การตั้งเป้าหมายการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เรื่องง่ายๆ ที่พ่อแม่ก็ทำได้เอง

ผมว่าหัวใจสำคัญของการตั้งเป้าหมายให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เนี่ย มันคือการ สร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษา ทำให้เขารู้สึกสนุกและอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าครับ เป้าหมายมันควรจะยืดหยุ่นได้ ปรับเปลี่ยนไปตามพัฒนาการและความสนใจของลูก ไม่ใช่ตั้งไว้แข็งทื่อแล้วก็พยายามลากลูกไปให้ถึงอย่างเดียว แบบนั้นมันเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาเลยครับ เหนื่อยทั้งพ่อแม่ เหนื่อยทั้งลูก

นี่ก็เป็นประสบการณ์ตรงของผมนะครับ อาจจะไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จสำหรับทุกคน แต่ก็หวังว่าจะเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังเจอปัญหาคล้ายๆ กันอยู่ได้บ้างนะครับ ลองเอาไปปรับใช้ดูครับผม!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?