เอาล่ะ วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ทำตารางเรียนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ที่บ้านกันครับ จริงๆ เริ่มจากที่เห็นว่าลูกๆ เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนแล้วยังไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร เลยคิดว่าต้องหาอะไรมาเสริมที่บ้าน

เริ่มเลยนะ:

• 1. สำรวจความสนใจลูก: เริ่มแรกเลยคือคุยกับลูกๆ ว่าชอบอะไร สนใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะถ้าเอาสิ่งที่เขาชอบมาใส่ในตารางเรียน มันจะสนุกและไม่น่าเบื่อ
• 2. กำหนดเป้าหมาย: คุยกันว่าอยากให้ลูกๆ ได้อะไรจากการเรียนภาษาอังกฤษครั้งนี้ อยากพูดได้ อยากอ่านคล่อง หรืออยากสอบได้คะแนนดีๆ กำหนดเป้าหมายไว้ จะได้มีทิศทาง
• 3. หาแหล่งเรียนรู้: อันนี้สำคัญ ผมลองหาทั้งหนังสือเรียน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่อง YouTube ที่สอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก แต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน

ลงมือทำตารางเรียน:

• 4. จัดสรรเวลา: ดูตารางเรียนปกติของลูกๆ แล้วหาช่วงเวลาที่เหมาะสม อาจจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกเรียน หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ กำหนดเวลาให้ชัดเจน เช่น วันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 17:00 – 17:30 น.
• 5. แบ่งเนื้อหา: แบ่งเนื้อหาที่จะเรียนออกเป็นส่วนๆ เช่น คำศัพท์ ไวยากรณ์ การอ่าน การฟัง การพูด แต่ละส่วนก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน แล้วแต่ความยากง่าย
• 6. เลือกกิจกรรม: เลือกกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ เช่น ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษ เล่นเกมภาษาอังกฤษ อ่านนิทานภาษาอังกฤษ ทำแบบฝึกหัด
• 7. ปรับเปลี่ยนได้: ตารางเรียนที่ทำไว้อาจจะไม่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมและความสนใจของลูกๆ

ตัวอย่างตารางเรียน (คร่าวๆ นะครับ):

วันจันทร์:

• 17:00 – 17:10 น.: ทบทวนคำศัพท์เก่า
• 17:10 – 17:20 น.: เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ (จาก flashcards หรือแอปพลิเคชัน)
• 17:20 – 17:30 น.: เล่นเกมทายคำศัพท์

วันพุธ:

• 17:00 – 17:15 น.: อ่านนิทานภาษาอังกฤษ (เล่มสั้นๆ)
• 17:15 – 17:30 น.: ตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง

วันศุกร์:

• 17:00 – 17:15 น.: ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ (มี subtitle)
• 17:15 – 17:30 น.: ร้องเพลงภาษาอังกฤษ

สิ่งที่ได้เรียนรู้:

• 8. ความสม่ำเสมอ: สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ พยายามทำตามตารางเรียนที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด
• 9. สร้างบรรยากาศ: สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและผ่อนคลายในการเรียนรู้ อย่ากดดันลูกๆ มากเกินไป
• 10. ให้กำลังใจ: ให้กำลังใจและชมเชยลูกๆ เมื่อเขาทำได้ดี
• 11. เรียนรู้ไปด้วยกัน: ตัวเราเองก็ต้องเรียนรู้ไปด้วยกันกับลูกๆ เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด

สุดท้าย:

ตารางเรียนนี้เป็นแค่แนวทางนะครับ แต่ละบ้านก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความเหมาะสมและความสนใจของลูกๆ เอง ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษกับลูกๆ นะครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ