รวมวลี ให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ เอาไว้ใช้ได้เลย
รวมวลี ให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ เอาไว้ใช้ได้เลย
Share:

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย กับเรื่องการให้กำลังใจเป็นภาษาอังกฤษเนี่ยแหละ เอาจริงๆ นะ ตอนแรกผมนี่ก็งูๆ ปลาๆ มากเลย ไม่รู้จะเริ่มยังไงดีเหมือนกัน

จุดเริ่มต้นเลยนะ…

คือมันเริ่มจากที่ผมมีเพื่อนต่างชาติ แล้วก็มีน้องๆ ที่ทำงานที่แบบ…เออ บางทีเค้าก็ต้องการกำลังใจใช่ปะ แล้วเราเป็นคนไทยอ่ะ เวลาให้กำลังใจมันก็จะมีคำติดปากของเรา “สู้ๆนะ” “อย่ายอมแพ้” “เดี๋ยวก็ผ่านไปได้” อะไรแบบนี้ ทีนี้พอจะพูดเป็นอังกฤษปุ๊บ…สตั๊นไปเลยจ้า จะแปลตรงๆ มันก็ยังไงๆ อยู่นะ บางทีมันไม่ได้ฟีลลิ่งเท่า

รวมวลี ให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ เอาไว้ใช้ได้เลย

แล้วมันเริ่มยังไง?

ผมก็เริ่มจากง่ายๆ เลยครับ เปิดเน็ตนี่แหละ! ค้นหาวลีให้กำลังใจภาษาอังกฤษทั่วไปก่อนเลย ก็เจอเยอะแยะเลยนะ “Keep going!”, “You can do it!”, “Don’t give up!” อะไรพวกนี้ ตอนแรกก็คิดว่าเออ จำๆ พวกนี้ไปใช้ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะมั้ง

ขั้นตอนที่ฉันลองผิดลองถูก

พอได้วลีมาแล้ว ผมก็เริ่มเอาไปลองใช้จริงเลยครับ กับเพื่อน กับน้องที่ทำงานนี่แหละ

  • ช่วงแรกๆ: ก็มีเขินๆ บ้างนะ พูดไปแล้วก็แอบดูรีแอคชั่นเค้าว่าเออ เก็ทมั้ย รู้สึกดีขึ้นรึเปล่า บางทีพูดไปแล้วมันดูทื่อๆ แข็งๆ เหมือนท่องมา ผมก็รู้สึกได้เองเลยว่ามันยังไม่ธรรมชาติ
  • เริ่มสังเกต: ผมเริ่มสังเกตจากหนัง จากซีรีส์ฝรั่ง หรือเวลาเห็นคนต่างชาติเค้าคุยกัน เค้าใช้คำไหนบ้างในสถานการณ์ที่คล้ายๆ กัน มันทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าเค้าไม่ได้พูดแค่ประโยคสั้นๆ แต่บางทีมีเกริ่น มีถามไถ่ความรู้สึกก่อน
  • ปรับการใช้: ผมเริ่มเข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่จำประโยคแล้วเอาไปพูด แต่ต้องดูสถานการณ์ด้วย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อาจจะใช้ “You got this!” หรือ “Almost there!” ก็พอ แต่ถ้าเรื่องมันหนักหน่อย การเข้าไปตบไหล่เบาๆ แล้วพูดว่า “I’m here for you if you need anything.” หรือ “Take your time. It’s okay to not be okay.” มันให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าเยอะ
  • ฝึกบ่อยๆ: อันนี้สำคัญสุดเลยครับ พอเริ่มจับทางได้ ผมก็พยายามหาโอกาสใช้บ่อยขึ้น ไม่กลัวผิดแล้ว ผิดก็จำไว้เป็นบทเรียน ค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ จนมันเริ่มออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่แค่ท่องจำ

สิ่งที่ฉันค้นพบและอยากแบ่งปัน

จากการลองผิดลองถูกของผม ผมว่าหัวใจของการให้กำลังใจ ไม่ว่าจะภาษาไหนก็ตาม มันคือสิ่งเหล่านี้ครับ:

  • ความจริงใจสำคัญสุด: พูดออกมาจากใจจริงๆ ครับ ต่อให้แกรมม่าไม่เป๊ะ แต่ถ้าคนฟังรับรู้ได้ถึงความตั้งใจดีของเรา มันก็โอเคแล้ว
  • ฟังก่อนพูด: บางทีการเป็นผู้ฟังที่ดีก็เป็นการให้กำลังใจที่ดีที่สุดแล้วครับ ให้เค้าได้ระบายออกมาก่อน แล้วค่อยเสริมด้วยคำพูดของเรา
  • เลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์: อย่างที่บอกไปข้างบนครับ ดูความหนักเบาของเรื่องด้วย
  • ไม่ต้องหรูหรา อลังการ: คำง่ายๆ สั้นๆ แต่ตรงใจ ก็ทรงพลังได้ครับ
  • ภาษากายก็ช่วยได้เยอะ: รอยยิ้ม การพยักหน้า การสบตา หรือการสัมผัสเบาๆ (ถ้าสนิทกันและเหมาะสม) ก็สื่อความหมายได้ดีมาก

ตัวอย่างที่ฉันใช้บ่อยๆ (แบบง่ายๆ เลยนะ)

อันนี้เป็นตัวอย่างที่ผมใช้บ่อยๆ แล้วรู้สึกว่ามันเวิร์ค แล้วก็ไม่ซับซ้อนด้วยครับ:

  • “Keep going!” / “Keep it up!” (สู้ต่อไปนะ! ทำดีแล้ว ทำต่อไป!)
  • “You can do it!” / “You’ve got this!” (เธอทำได้อยู่แล้ว!)
  • “Don’t give up!” (อย่ายอมแพ้นะ!)
  • “I’m here for you.” (ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อเธอนะ)
  • “Take your time.” (ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป)
  • “It’s going to be alright.” (เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองแหละ)
  • “I believe in you.” (ฉันเชื่อในตัวเธอนะ)
  • “Good job!” / “Well done!” (ทำได้ดีมาก! – อันนี้ใช้ชมเวลาเค้าทำอะไรสำเร็จ ก็เป็นการให้กำลังใจอย่างนึง)

สรุปง่ายๆ เลยนะ การให้กำลังใจเป็นภาษาอังกฤษมันก็เหมือนการฝึกภาษาทั่วไปแหละครับ ต้องเริ่มจากพื้นฐาน ลองเอาไปใช้จริง สังเกต แล้วก็ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวผิด สำคัญที่สุดคือความตั้งใจที่ดีและความจริงใจของเราครับ ผมเองก็ยังเรียนรู้ทุกวันเหมือนกัน หวังว่าประสบการณ์ของผมน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดู!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?