สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ที่ผมได้ลองผิดลองถูกกับการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ นะครับ ไม่ได้มีหลักการอะไรวิชาการมาก แต่เป็นสิ่งที่ทำแล้วมันเวิร์คจริงๆ สำหรับผม
จุดเริ่มต้นและความทุลักทุเล
ตอนแรกเลยเนี่ย ผมก็เหมือนหลายๆ คน คือคิดว่าสอนเด็กก็คงเหมือนสอนผู้ใหญ่ แค่ย่อส่วนลงมา ปรากฏว่า…ไม่ใช่เลยครับ! เอาตำรามาเปิด กะว่าจะสอน A B C สอนแกรมมาร์ง่ายๆ เด็กๆ มองหน้าผมตาแป๋ว แล้วก็หันไปเล่นกันเองเฉยเลย (ฮา) ตอนนั้นท้อเหมือนกันนะ คิดว่าเราคงไม่เหมาะกับการสอนเด็กรึเปล่า

ผมเริ่มสังเกตพฤติกรรมของเด็กๆ มากขึ้น พวกเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร สนใจอะไรเป็นพิเศษ สิ่งที่เห็นชัดเลยคือ เด็กๆ ชอบความสนุก ชอบเคลื่อนไหว ชอบเล่น ไม่ชอบอะไรที่มันน่าเบื่อหรือต้องนั่งนิ่งๆ นานๆ
ลงมือปรับเปลี่ยน ลองของจริง
จากนั้น ผมก็เริ่มปรับวิธีการสอนของตัวเองใหม่หมดเลยครับ ลองมาดูกันทีละอย่างที่ผมทำนะ
- เปลี่ยนห้องเรียนเป็นสนามเด็กเล่น (ชั่วคราว): อันนี้ไม่ได้หมายถึงให้มีเครื่องเล่นจริงจังนะ แต่หมายถึงบรรยากาศ ผมเริ่มจากเอาเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมาเปิด เต้นตามเพลงง่ายๆ เด็กๆ ชอบมากครับ จากที่เคยนั่งเงียบๆ ก็เริ่มมีเสียงหัวเราะ เริ่มขยับตัวตาม
- ใช้ภาพและของจริงเข้าสู้: ผมพบว่าการ์ดคำศัพท์ (Flashcards) ที่มีรูปภาพสีสันสดใสนี่เป็นพระเอกเลยครับ ชูภาพขึ้นมาแล้วพูดคำศัพท์นั้นๆ ซ้ำๆ หรือบางทีก็เอาของเล่น ผลไม้จริง มาสอนคำศัพท์ เด็กๆ จะตื่นเต้นมากที่ได้เห็น ได้จับต้อง
- เล่านิทานคือยาวิเศษ: ผมลองหาหนังสือนิทานภาษาอังกฤษง่ายๆ ภาพสวยๆ มาเล่าให้ฟัง ตอนเล่าก็ต้องใส่อินเนอร์หน่อย ทำเสียงเล็กเสียงใหญ่ ทำท่าทางประกอบ เด็กๆ จะตั้งใจฟังมากครับ แล้วพวกเขาก็จะจำคำศัพท์จากในนิทานได้แบบไม่รู้ตัวเลยนะ
- เกมเท่านั้นที่ครองโลก (เด็ก): อะไรก็ตามที่ทำให้เป็นเกมได้ ผมทำหมดครับ เช่น เกมทายคำศัพท์จากภาพ เกมชี้อวัยวะตามคำสั่ง (Simon Says) หรือแม้แต่เกมง่ายๆ อย่างโยนบอลแล้วให้พูดคำศัพท์ที่เรียนไป พอมีเรื่องการแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ หรือการได้เล่น เด็กๆ จะกระตือรือร้นมาก
- ทำซ้ำ ย้ำบ่อยๆ แต่อย่าให้น่าเบื่อ: เด็กเรียนรู้จากการทำซ้ำครับ แต่ถ้าซ้ำแบบเดิมๆ เขาก็เบื่อ ผมเลยต้องหาวิธีการซ้ำที่หลากหลาย เช่น วันนี้เรียนคำว่า “apple” ด้วยแฟลชการ์ด พรุ่งนี้อาจจะร้องเพลงเกี่ยวกับ apple หรือวาดรูป apple แล้วระบายสี
- ชม ชม ชม แล้วก็ชม: กำลังใจสำคัญที่สุดครับ ไม่ว่าเด็กจะพูดถูกพูดผิด ออกเสียงเพี้ยนไปบ้าง ผมจะชมไว้ก่อนเลยว่า “เก่งมาก” “พยายามได้ดีมาก” ทำให้เขารู้สึกดีและกล้าที่จะพูดมากขึ้น ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ครับ
- สั้นๆ แต่บ่อยๆ: สมาธิเด็กสั้นมากครับ อย่าพยายามยัดเยียดอะไรนานๆ ผมจะแบ่งกิจกรรมเป็นช่วงสั้นๆ หลายๆ ช่วง เช่น 10-15 นาทีต่อกิจกรรม แล้วก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง
ผลลัพธ์ที่เห็นกับตา
หลังจากที่ผมปรับเปลี่ยนวิธีการสอนมาเป็นแบบนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ
- เด็กๆ สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น จากที่เคยหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็กลายเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส
- พวกเขากล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น ไม่กลัวที่จะพูดผิด
- จำคำศัพท์ได้เยอะขึ้น และเริ่มนำไปใช้ในประโยคง่ายๆ ได้
- บรรยากาศในห้องเรียนดีขึ้นมากครับ มีแต่เสียงหัวเราะและความกระตือรือร้น
ผมว่าหัวใจสำคัญของการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ คือ การทำให้พวกเขารู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือเป็นภาระ พอเขาสนุก เขาก็จะเปิดใจรับและเรียนรู้ได้เองครับ มันอาจจะไม่ได้เห็นผลทันทีทันใด แต่ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ รับรองว่าดีขึ้นแน่นอนครับ นี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เอามาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คนที่กำลังสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ อยู่นะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูได้เลย!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments