สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย กับเรื่องการเตรียมตัวสอบ IELTS ของผมเอง บอกเลยว่าตอนแรกที่คิดจะไปสอบเนี่ยนะ หัวหมุนเลย ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ระดับภาษาอังกฤษของตัวเองก็งูๆ ปลาๆ มาก

จุดเริ่มต้นและความสับสน

ตอนนั้นคืออยากได้คะแนน IELTS ไปยื่นเรียนต่อต่างประเทศไงครับ แต่พอไปลองดูข้อมูลเท่านั้นแหละ โอ้โห…อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้ มีทั้ง Listening, Reading, Writing, Speaking แถมแต่ละพาร์ทก็มีเทคนิค มีรูปแบบคำถามที่ต้องรู้เฉพาะอีก ผมนี่ไปยืนงงในดงหนังสือ IELTS เลยครับ เล่มนั้นก็ดี เล่มนี้ก็น่าอ่าน เพื่อนคนนั้นแนะนำคอร์สนี้ เพื่อนคนนี้บอกให้ฝึกเอง สรุปคือ…เละเทะ!

ช่วงแรกๆ ผมก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยเปื่อยครับ ซื้อหนังสือมาหลายเล่มมาก กองเต็มห้องไปหมด โหลดแอพมาฝึกศัพท์บ้าง ดูคลิปสอนในยูทูบบ้าง แต่รู้สึกว่ามันไม่เป็นระบบเลย เหมือนจับฉ่ายมาก ทำๆ หยุดๆ ไม่มีเป้าหมายชัดเจน คะแนนที่ลองทำเล่นๆ ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นเลยสักนิด

ลงมือจริงจังและค้นพบแนวทาง

จนกระทั่งวันนึง ผมรู้สึกว่าไม่ได้การละ ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป คงไม่ได้ไปไหนแน่ๆ เลยต้องมานั่งตั้งสติใหม่ครับ วางแผนการอ่านหนังสืออย่างจริงจัง ผมเริ่มจาก:

• ประเมินตัวเองก่อน: ลองทำข้อสอบเก่าๆ แบบจับเวลาดูเลยครับ จะได้รู้ว่าเราอ่อนตรงไหน แข็งตรงไหน พาร์ทไหนต้องเน้นเป็นพิเศษ ของผมนี่ Writing กับ Speaking คือจุดอ่อนเลย
• หาคอร์สเรียนเสริม: ผมตัดสินใจว่าบางพาร์ทอย่าง Writing กับ Speaking เนี่ย ถ้ามีคนคอยแนะนำ คอยตรวจให้ มันน่าจะดีกว่าคลำทางเอง ผมก็เลยไปลงเรียนคอร์สสั้นๆ เน้นเทคนิคการเขียนและการพูดโดยเฉพาะเลย
• ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: อันนี้สำคัญมาก ผมจัดตารางให้ตัวเองเลยว่าวันนึงจะอ่านพาร์ทไหนบ้าง อย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมง

รายละเอียดการฝึกแต่ละพาร์ท

Listening: ผมก็เริ่มจากฟังเยอะๆ เลยครับ ฟังทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ ทั้ง podcast, ข่าว BBC, TED Talks แล้วก็พวกข้อสอบเก่าๆ นี่แหละสำคัญมาก ตอนฟังก็พยายามจดโน้ตยิกๆ เลยครับ คำไหนฟังไม่ออกก็เปิดสคริปต์ดู แล้วก็ฟังซ้ำตรงนั้น

Reading: ส่วน Reading เนี่ย ตอนแรกผมอ่านไม่ทันเลยครับ มันยาวมากกกก ผมก็เลยฝึกอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า บทความภาษาอังกฤษ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ แล้วก็เน้นจับเวลาด้วยนะ สำคัญคือต้องหัดสแกนหาคีย์เวิร์ดให้เร็ว ไม่ใช่ต้องอ่านทุกตัวอักษร

Writing: Writing นี่สิของจริงสำหรับผมเลย ยากมากกก ผมฝึกเขียนทุกวันครับ วันละ 1-2 task ตามแบบข้อสอบจริงเลย แล้วก็หาคนช่วยตรวจ ซึ่งก็คืออาจารย์ที่คอร์สนั่นแหละ เขาจะช่วยคอมเมนต์ว่าเราต้องปรับปรุงตรงไหน โครงสร้างประโยคเป็นยังไง คำศัพท์เหมาะสมไหม

Speaking: อันนี้ผมใช้วิธีอัดเสียงตัวเองฟังครับ ตอนแรกๆ ฟังแล้วแบบ…โอ้โห นี่เสียงเราเหรอเนี่ย พูดติดๆ ขัดๆ สำเนียงก็แปลกๆ แต่ก็ต้องทนฟังครับ แล้วก็พยายามแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง บางทีก็พูดกับกระจก หรือหาเพื่อนที่เก่งอังกฤษช่วยซ้อมพูดด้วย

ช่วงท้อแท้และผลลัพธ์

บอกตรงๆ ว่ามีช่วงที่ท้อมากครับ อ่านไปทำไมมันไม่ดีขึ้นเลยวะเนี่ย บางทีทำข้อสอบแล้วคะแนนแย่กว่าเดิมอีก อยากจะปาหนังสือทิ้งไปเลย แต่ก็ต้องฮึดสู้ครับ นึกถึงเป้าหมายเอาไว้

ผมใช้เวลาเตรียมตัวจริงจังประมาณ 3-4 เดือนครับ ก่อนสอบก็พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ทำสมาธิไม่ให้ตื่นเต้นเกินไป

สุดท้ายพอผลออกมา…เออ…มันก็คุ้มเหนื่อยแหละครับ คะแนนอาจจะไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคอะไรมากมาย แต่ก็เป็นระดับที่ผมพอใจและสามารถนำไปใช้ยื่นเรียนต่อได้ตามที่ตั้งใจไว้

นี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่บ้างไม่มากก็น้อย สู้ๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ