โอเคครับ นี่คือบันทึกการฝึกฝนของผมเกี่ยวกับเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กฟรี พร้อมโครงสร้างและภาษาที่เลียนแบบตัวอย่างที่คุณให้มา:
## เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กฟรี: กว่าจะได้มา แชร์ประสบการณ์จริง

เริ่มต้นเลยนะ ผมเริ่มจากศูนย์จริงๆ คือไม่ได้มีความรู้เรื่องเพลงเด็กภาษาอังกฤษอะไรมากมายเลย ตอนแรกก็งงๆ ว่าจะหาเพลงอะไรให้ลูกฟังดี ที่มันทั้งสนุกและได้ความรู้ไปด้วย
ลงมือค้นหา: Google เป็นเพื่อน: เริ่มจาก Google เลย พิมพ์คำว่า “เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ฟรี” แล้วก็ไล่ดูผลการค้นหาไปเรื่อยๆ YouTube ก็มี: YouTube นี่แหละแหล่งขุมทรัพย์เลย มีเพลงเด็กภาษาอังกฤษเยอะมาก ทั้งแบบมีภาพเคลื่อนไหวและแบบคาราโอเกะ คัดเลือกเพลง: ทำรายการเพลง: พอเจอเพลงที่น่าสนใจ ก็จดชื่อเพลงไว้ก่อน ทำเป็นรายการเพลงยาวๆ ฟังวนไป: จากนั้นก็เริ่มฟังเพลงแต่ละเพลงวนไปวนมา ดูว่าเพลงไหนที่ลูกชอบ เพลงไหนที่เนื้อหามันโอเค ไม่ซับซ้อนเกินไป ปัญหาที่เจอ: เพลงเยอะเกินไป: คือเพลงมันเยอะมาก เลือกไม่ถูกเลย บางเพลงก็ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลิขสิทธิ์: บางทีก็เจอเพลงที่ติดลิขสิทธิ์ ดูได้แป๊บเดียวก็โดนบล็อก แก้ไขปัญหา: ปรึกษาคนมีประสบการณ์: ถามเพื่อนๆ ที่มีลูกเหมือนกัน ว่าเค้าฟังเพลงอะไรให้ลูกฟังบ้าง ได้ไอเดียมาเยอะเลย เน้นเพลงฮิต: เลือกเพลงฮิตๆ ที่เด็กๆ ทั่วโลกเค้าฟังกัน อย่างเช่น “Twinkle Twinkle Little Star” หรือ “Wheels on the Bus” ลงมือทำจริง: เปิดเพลงให้ลูกฟัง: เริ่มจากเปิดเพลงให้ลูกฟังตอนเล่น ตอนกินข้าว หรือตอนก่อนนอน ร้องตาม: พยายามร้องตามไปด้วย ถึงแม้สำเนียงจะไม่เป๊ะ แต่ลูกก็ชอบ ทำท่าทาง: หาท่าทางประกอบเพลงไปด้วย จะช่วยให้ลูกจำเพลงได้ง่ายขึ้น ผลลัพธ์: ลูกชอบ: ลูกชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษมาก ร้องตามได้บ้างแล้ว ได้ความรู้: ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ จากเพลง สนุก: ทั้งผมและลูกสนุกกับการฟังเพลงภาษาอังกฤษด้วยกัน สรุป:การหาเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กฟรีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลาในการค้นหาและคัดเลือกเพลงที่เหมาะสมกับลูกของเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้ลูกสนุกกับการฟังเพลง และค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันครับ ลองทำตามวิธีของผมดูนะ รับรองว่าได้ผล!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments