สอน เด็ก ภาษา อังกฤษ ให้สนุก ลูกไม่เบื่อ จำแม่น ไม่ต้องบังคับ
สอน เด็ก ภาษา อังกฤษ ให้สนุก ลูกไม่เบื่อ จำแม่น ไม่ต้องบังคับ
Share:

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลยครับ กับเรื่องที่หลายคนอาจจะกำลังปวดหัวอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ที่บ้านเรานี่แหละครับ ผมเองก็ลองผิดลองถูกมาเยอะเหมือนกัน จนพอจะจับทางได้บ้าง เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ

จุดเริ่มต้นและความมึนงง

ตอนแรกเลยนะ ผมก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คนแหละครับ คืออยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ไปเปิดดูตามยูทูปบ้าง อ่านตามเว็บต่างๆ บ้าง ข้อมูลมันเยอะแยะไปหมดจนเลือกไม่ถูกเลยครับ บางคนก็บอกให้เริ่มจากแกรมมาร์ บางคนก็บอกให้เน้นพูดคุย ผมนี่เกาหัวเลยครับว่าจะเอาไงดี

สอน เด็ก ภาษา อังกฤษ ให้สนุก ลูกไม่เบื่อ จำแม่น ไม่ต้องบังคับ

ลงมือปฏิบัติครั้งแรก (และเกือบจะล้มเหลว)

ผมตัดสินใจลองเริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อน คือซื้อหนังสือภาพคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาให้ลูกดูครับ กะว่าให้เขาจำจากรูปเอา ปรากฏว่าลูกชายผมมองแว๊บเดียวแล้วก็วิ่งไปเล่นอย่างอื่นเลยครับ! ผมก็พยายามชวนเขาดู ชี้ชวนให้พูดตาม แต่เหมือนเขาไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ตอนนั้นแอบท้อเหมือนกันนะ คิดว่าสงสัยลูกเราจะไม่ชอบภาษาอังกฤษซะแล้ว

เปลี่ยนแนวทาง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย

หลังจากพยายามยัดเยียดหนังสือให้ลูกอยู่พักนึง ผมก็เริ่มสังเกตว่าลูกผมชอบดูการ์ตูนมาก โดยเฉพาะการ์ตูนที่มีเพลงสนุกๆ ผมเลยลองเปิดการ์ตูนเพลงภาษาอังกฤษให้เขาดูครับ เอ้อ! อันนี้เหมือนจะเข้าท่าแฮะ ลูกผมเริ่มโยกหัวตามเพลง บางทีก็มีฮัมๆ ออกมาบ้าง ถึงจะยังไม่เป็นคำก็เถอะ

ผมเลยได้ไอเดียว่า ต้องทำให้มันเป็นเรื่องสนุกและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ใช่การมานั่งจ้องหนังสืออย่างเดียว

สิ่งที่ผมลองทำแล้วได้ผล (สำหรับบ้านผมนะ)

  • เปิดเพลงเด็กภาษาอังกฤษบ่อยๆ: ตอนเช้า ตอนกินข้าว หรือตอนเล่น ผมจะเปิดเพลงภาษาอังกฤษคลอๆ ไปด้วย เลือกเพลงที่จังหวะสนุกๆ คำศัพท์ง่ายๆ ลูกผมชอบเพลงเกี่ยวกับสัตว์มากครับ แรกๆ เขาก็ฟังเฉยๆ หลังๆ เริ่มมีร้องตามคำที่คุ้นๆ ได้บ้าง
  • ใช้บัตรคำศัพท์ (Flashcards) แบบเล่นเกม: แทนที่จะให้ดูเฉยๆ ผมจะเอาบัตรคำศัพท์มาเล่นทายกัน เช่น หยิบรูปสัตว์ขึ้นมาแล้วถามว่า “What’s this?” แล้วก็ตอบให้เขาฟัง ทำซ้ำๆ บ่อยๆ หรือบางทีก็วางบัตรคำศัพท์ไว้หลายๆ ใบ แล้วบอกให้เขาหยิบใบที่เป็นรูปแมว รูปหมา อะไรแบบนี้ครับ สนุกดี เขาไม่รู้สึกว่าโดนบังคับให้เรียน
  • พูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ: อันนี้ผมพยายามทำบ่อยๆ ครับ เช่น ตอนหยิบของเล่น ก็จะพูดชื่อของเล่นเป็นภาษาอังกฤษ “This is a car.” “It’s a red ball.” ตอนกินข้าวก็อาจจะพูดชื่อผักผลไม้บ้าง ไม่ต้องเป็นประโยคยาวๆ เอาแค่คำศัพท์เดี่ยวๆ หรือวลีสั้นๆ ก็พอครับ สำคัญคือความสม่ำเสมอ
  • อ่านนิทานภาษาอังกฤษก่อนนอน: ผมเลือกนิทานภาพเล่มเล็กๆ ที่มีคำศัพท์ไม่เยอะ อ่านให้เขาฟังด้วยน้ำเสียงสนุกๆ ชี้ชวนให้ดูรูปภาพประกอบ เขาจะค่อยๆ ซึมซับไปเองครับ
  • ไม่กดดัน ไม่คาดหวัง: อันนี้สำคัญที่สุดเลยครับ ผมจะไม่บังคับถ้าเขาไม่อยากทำวันไหน หรือถ้าเขาตอบผิด ผมก็จะไม่ดุ แต่จะบอกคำที่ถูกให้เขาฟังเฉยๆ เป้าหมายของผมคือให้เขารู้สึกดีกับภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ให้เขากลัว

ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ เห็น

หลังจากลองปรับเปลี่ยนวิธีมาเรื่อยๆ ผมก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงครับ ลูกผมเริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษออกมาเองบ้างแล้ว อาจจะยังไม่ชัดเป๊ะ แต่ก็พอจะรู้เรื่อง เช่น “apple” “dog” “cat” หรือบางทีก็มีวลีสั้นๆ อย่าง “thank you” “good morning” ออกมาให้ชื่นใจ เวลาเขาได้ยินเพลงภาษาอังกฤษที่คุ้นเคย เขาก็จะยิ้มแล้วก็พยายามร้องตาม มันเป็นอะไรที่ทำให้คนเป็นพ่ออย่างผมมีความสุขมากๆ ครับ

ถึงตอนนี้ลูกผมก็ยังไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษอะไรมากมายหรอกนะครับ แต่ผมรู้สึกว่าเขาเริ่มเปิดใจและสนุกกับมันมากขึ้น ซึ่งผมว่านี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้วครับ การสอนภาษาให้เด็กเล็กๆ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ ต้องค่อยๆ สังเกตลูกเราว่าเขาชอบอะไร สนใจแบบไหน แล้วก็ปรับวิธีการของเราไปเรื่อยๆ สำคัญที่สุดคือความอดทน ความสม่ำเสมอ และความรักที่เรามีให้เขาครับ

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ สู้ๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?