เอาล่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับการเรียน IELTS ของตัวเอง ใครกำลังมองหาแนวทางหรือแค่อยากรู้ว่าคนอื่นเค้าทำกันยังไง ก็ลองอ่านดูนะ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากไปสอบ IELTS วะ?
เรื่องมันเริ่มมาจากความอยากส่วนตัวล้วนๆ เลย คือตั้งใจไว้ว่าอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศซักหน่อย ทีนี้ไอ้เจ้า IELTS เนี่ยมันเป็นเหมือนด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ ตอนแรกก็แอบคิดในใจนะว่า เอ้อ ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากมาย น่าจะพอไหวแหละน่า แต่พอได้ลองไปเปิดๆ ดูข้อสอบตัวอย่างเท่านั้นแหละคุณเอ๊ย… ความมั่นใจที่เคยมีมันหายวับไปกับตาเลยจ้า! มันคนละเรื่องกับที่เคยเรียนๆ มาเลยจริงๆ
แล้วจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี? งงไปหมด!
บอกตามตรงเลยนะว่าช่วงแรกๆ นี่เคว้งคว้างมาก จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอ่านจากอะไรก่อน จะซื้อหนังสือเล่มไหนดี หรือว่าจะต้องไปลงคอร์สเรียนที่ไหนแพงๆ รึเปล่า หรือจะลองงมๆ อ่านเองไปก่อนดี คำถามมันวนอยู่ในหัวเต็มไปหมด ลองเดินเข้าร้านหนังสือนะ โอ้โห หนังสือ IELTS วางกันเป็นตั้งๆ เลือกไม่ถูกเลยจริงๆตาลายไปหมด
สุดท้ายหลังจากนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายตลบ ก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ! ลองหาข้อมูลดูก่อนว่าแต่ละพาร์ทมันทดสอบอะไรบ้าง แล้วก็ลองทำข้อสอบเก่าๆ ดูซักชุดสองชุด จะได้รู้ว่าตัวเองอ่อนตรงไหน แล้วค่อยวางแผนอ่านเป็นจุดๆ ไป ไม่งั้นอ่านสะเปะสะปะคงไม่รอดแน่
ลงสนามจริงแต่ละพาร์ท…มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
พอเริ่มจับทางได้บ้างแล้ว ก็ถึงเวลาลุยแต่ละส่วนอย่างจริงจังซะที
เริ่มที่การฟัง (Listening)
- ตอนแรกๆ ที่ลองทำนะ ฟังไม่ทันเลยจ้า สำเนียงก็มาซะหลากหลาย ทั้งบริติช ออสซี่ อเมริกัน ปนกันไปหมด บางทีฟังเพลินๆ อ้าว! ตอบไม่ทันซะงั้น อยากจะเขวี้ยงหูฟังทิ้งวันละหลายรอบ
- สิ่งที่ฉันลองทำก็คือ พยายามฟังมันทุกวันเลย เปิด podcast ภาษาอังกฤษฟังบ้าง ดูข่าวช่องต่างประเทศบ้าง แล้วก็เน้นทำแบบฝึกหัดเฉพาะของ IELTS นี่แหละ พยายามจับคีย์เวิร์ด ฝึกเดาคำตอบล่วงหน้าจากคำถาม มันช่วยได้เยอะเลยนะ
- ทำไปซักพัก เออ มันเริ่มจับทางได้แฮะ เริ่มรู้แล้วว่าตรงไหนชอบออก ตรงไหนเป็นจุดหลอก
ต่อด้วยการอ่าน (Reading)
- บทความนี่ก็ยาวเหลือเกิน ศัพท์ก็ยากซะจนบางทีท้อใจ อ่านจบย่อหน้าแรกลืมย่อหน้าที่แล้ว! แล้วคำถามนะ ชอบหลอกเก่งจริงๆ อ่านแล้วเหมือนจะตอบได้ แต่พอไปดูตัวเลือก อ้าว คล้ายกันไปหมด
- ฉันเลยต้องปรับวิธีใหม่ ลองใช้เทคนิค skimming (อ่านเร็วๆ เอาใจความ) กับ scanning (กวาดตาหาคำตอบ) แล้วก็พยายามจดศัพท์ใหม่ๆ ที่เจอในบทความเอาไว้ท่อง ที่สำคัญคือต้องทำแบบฝึกหัดเยอะๆ จับเวลาด้วย จะได้ชินกับแรงกดดันในห้องสอบ
- มันไม่ใช่แค่แข่งกันอ่านรู้เรื่องนะ แต่มันคือการแข่งกับเวลาเพื่อหาคำตอบให้เจอไวที่สุดต่างหาก
มาถึงตัวโหด การเขียน (Writing)
- สาบานเลยว่าพาร์ทนี้เป็นอะไรที่ฉันกุมขมับที่สุด! Task 1 ก็ต้องมานั่งอธิบายกราฟเอย ตารางเอย แผนภาพเอย ซึ่งชีวิตประจำวันไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้เลย ส่วน Task 2 ก็ต้องมาเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่แบบ…บางทีก็คิดไม่ออกจริงๆว่าจะเขียนอะไรดี
- ฉันพยายามแก้ปัญหาด้วยการหาตัวอย่างงานเขียนดีๆ มาอ่านเยอะๆ ดูว่าเค้ามีโครงสร้างการเขียนยังไง ใช้คำเชื่อมแบบไหน แล้วก็ลองหัดเขียนทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี แล้วก็มีให้เพื่อนที่เก่งๆ ช่วยตรวจให้บ้าง โดนแก้แดงเถือกก็บ่อยไป
- พวกคำศัพท์ที่ใช้เฉพาะในการอธิบายกราฟนี่ต้องท่องจำเลยนะ ไม่งั้นไปไม่เป็นจริงๆ ตอนแรกๆ นี่เขียนวนไปวนมาน่าเบื่อมาก
สุดท้าย การพูด (Speaking)
- พาร์ทนี้หลายคนอาจจะคิดว่าง่ายสุด แต่สำหรับฉันนะ ตื่นเต้นทุกที! พออยู่ต่อหน้าคนคุมสอบจริงๆ บางทีมันก็มีอาการปากแข็ง นึกคำศัพท์ไม่ออก พูดติดๆ ขัดๆ ซะงั้น ทั้งๆ ที่ตอนซ้อมคนเดียวก็พูดคล่องดีอยู่หรอก
- วิธีที่ฉันใช้ฝึกก็คือ พูดกับตัวเองหน้ากระจกนี่แหละ หรือไม่ก็อัดเสียงตัวเองไว้ฟัง จะได้รู้ว่าเราพูดเป็นยังไง ติดขัดตรงไหนบ้าง แล้วก็พยายามหาหัวข้อที่เค้าชอบออกสอบมาลองนั่งคิดคำตอบคร่าวๆ เตรียมไว้
- พยายามพูดให้มันเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องแกรมม่ามากจนเกร็ง เน้นสื่อสารให้เค้าเข้าใจก็พอแล้ว
สิ่งที่เรียนรู้ (แบบไม่คาดคิด) ระหว่างทาง
จะบอกว่าการเตรียมตัวสอบ IELTS เนี่ย มันไม่ได้ให้แค่ความรู้ภาษาอังกฤษนะ แต่มันสอนอะไรเรามากกว่านั้นเยอะเลย อย่างแรกเลยคือเรื่องของวินัย เพราะเราต้องบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดทุกวัน ต้องวางแผน ต้องอดทนกับความเหนื่อยความท้อ แล้วมันก็ทำให้เรารู้จักจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองมากขึ้นด้วย
แล้วก็อีกเรื่องที่ค้นพบคือ พวกคอร์สเรียนแพงๆ ทั้งหลายแหล่เนี่ย บางทีมันก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไปนะ ถ้าเรามีความตั้งใจจริงจังมากพอ เดี๋ยวนี้แหล่งข้อมูลฟรีๆ ดีๆ ในอินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะไปหมด คลิปสอนเอย แบบฝึกหัดเอย มันอยู่ที่ว่าเราจะขยันค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวแค่ไหนมากกว่า
อ้อ! แล้วก็อย่าไปเชื่อรีวิวอะไรมากมายนัก บางคนบอกง่าย บางคนบอกยาก สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเดิมของเราบวกกับความพยายามที่เราใส่ลงไปนั่นแหละ ไม่มีทางลัดจริงๆ
แล้วตกลงผลมันออกมาเป็นยังไง?
หลังจากที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจไปพักใหญ่ ผลสอบที่ออกมาก็…ถือว่าน่าพอใจเลยล่ะ ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้พอดีเป๊ะ ไม่ได้อยากจะมาอวดคะแนนอะไรหรอกนะ แต่มันรู้สึกเหมือนเป็นรางวัลที่คุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ลงแรงไปมากกว่า
ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม เส้นทางการเรียน IELTS ของผมก็ประมาณนี้แหละ มีทั้งช่วงที่ไฟแรง ช่วงที่ท้อจนอยากจะเท แต่สุดท้ายถ้าเราไม่ยอมแพ้ซะก่อน มันก็ผ่านไปได้จริงๆ นะ สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสอบอยู่เหมือนกันก็ขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments