บทเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวมีการกำหนดราคาจากหลายปัจจัยหลัก:

ปัจจัยกำหนดราคา

• คุณวุฒิและประสบการณ์ติวเตอร์: ติวเตอร์ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเจ้าของภาษา (Native Speaker) หรือผู้มีประกาศนียบัตรสากล (เช่น TESOL, CELTA) มักมีราคาสูงกว่าผู้สอนท้องถิ่น
• ระยะเวลาและรูปแบบบทเรียน: บทเรียนที่ยาวขึ้นหรือรูปแบบเฉพาะทาง (เช่น ภาษาอังกฤษธุรกิจ, การเตรียมสอบ IELTS/TOEIC) มักมีราคาแพงกว่าบทเรียนสนท�าทั่วไป
• แพลตฟอร์มหรือสถาบัน: สถาบันชื่อดัง เช่น Wall Street English, Berlitz หรือ TutorABC จะมีราคาค่าเล่าเรียนที่สูงกว่า เนื่องจากมีระบบการเรียน โปรแกรมเฉพาะ และชื่อเสียง
• สถานที่เรียน: บทเรียนที่บ้านผู้เรียนหรือแบบออนไลน์อาจมีราคาต่างจากบทเรียนที่สถาบัน

ช่วงราคาโดยประมาณ (ต่อครั้ง 50-60 นาที)

• ติวเตอร์ท้องถิ่นทั่วไป: ประมาณ 450 – 650 บาท
• ติวเตอร์ต่างชาติ/มีประสบการณ์สูง: ประมาณ 800 – 1,200 บาท
• ติวเตอร์ Native Speaker หรือผ่านสถาบันชื่อดัง: 1,600 บาทขึ้นไป
• แพลตฟอร์มออนไลน์: อัตรายืดหยุ่นได้มากกว่า บางแห่งเริ่มต้นที่ 400 – 600 บาท/ครั้ง สำหรับครูฟิลิปปินส์ที่มีความสามารถ และราคาสูงขึ้นสำหรับ Native Speaker บริการออนไลน์อย่าง 51Talk Thailand มักเสนอราคาที่คุ้มค่าสำหรับบทเรียนตัวต่อตัว

คุ้มค่าหรือไม่ วัดจากอะไร?

• เป้าหมายชัดเจน: หากคุณต้องการพัฒนาเฉพาะทักษะ (พูด, เขียน, สอบ) และเห็นผลลัพธ์เร็ว บทเรียนตัวต่อตัวมักคุ้มค่าวิธีอื่น เช่น คอร์สกลุ่มใหญ่ เนื่องจากโฟกัสแก้ไขจุดอ่อนได้เต็มที่
• ความต่อเนื่องและเวลา: คุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเรียนสม่ำเสมอ และใช้เวลาทบทวนนอกบทเรียน การวางแผนตารางเรียนให้ลงตัวกับชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ
• การเลือกติวเตอร์ที่ตรงความต้องการ: ไม่ใช่แค่ราคา แต่ต้องดูว่าเทคนิคการสอน บุคลิก และประสบการณ์ของติวเตอร์ตรงกับสไตล์การเรียนรู้และเป้าหมายของคุณหรือไม่ ลองทดลองเรียน (Trial) หากเป็นไปได้
• ความน่าเชื่อถือของบริการ: แพลตฟอร์มหรือสถาบันที่มีระบบการันตีคุณภาพครู การจัดตารางที่ยืดหยุ่น และการสนับสนุนลูกค้าที่ดี เช่น 51Talk Thailand ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงต่ำลง

สรุป: ความคุ้มค่าสูงสุดของบทเรียนตัวต่อตัวไม่ได้อยู่ที่ราคาถูกสุด แต่อยู่ที่การตอบโจทย์เป้าหมาย การได้ครูที่เหมาะสม และการเรียนที่สม่ำเสมอ เปรียบเทียบหลายๆ แหล่งและพิจารณาให้รอบด้าน

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ