จุดเริ่มต้นของการสอนออนไลน์ฟรี
เรื่องมันเริ่มมาจากช่วงที่เราว่างๆ อ่ะนะ แล้วก็เห็นเด็กๆ แถวบ้าน หรือลูกหลานเพื่อนๆ นี่แหละ เรียนออนไลน์กัน แล้วก็บ่นๆ กันว่าภาษาอังกฤษมันยากจัง เราเองก็พอได้ภาษาอยู่บ้าง เลยคิดว่าเออ…ลองดูสักตั้งไหม สอนฟรีไปเลย ไม่ได้หวังอะไรมาก แค่อยากช่วย
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเลยนะ แค่มีความรู้สึกว่าอยากจะแบ่งปันความรู้ที่เรามีนิดๆ หน่อยๆ ให้กับเด็กๆ ที่อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ หรือรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องน่าเบื่อ คิดว่าถ้าเราทำให้มันสนุกขึ้นได้ ก็น่าจะดีไม่น้อยเลย

เตรียมตัวยังไงบ้าง?
พอตัดสินใจว่าจะลองดูแล้ว ก็เริ่มลงมือเตรียมตัวเลย:
- อย่างแรกเลยคือหาข้อมูล: เด็กประถมเนี่ย เค้าเรียนเนื้อหาอะไรกันบ้างนะ? เราก็ไปแอบดูหนังสือเรียนของหลานบ้าง ถามเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยนี้บ้าง ว่าเค้าสนใจอะไรกัน อยากรู้เรื่องอะไรเป็นพิเศษ จะได้เตรียมสอนได้ตรงจุด
- ต่อมาก็ทำสื่อการสอนง่ายๆ: บอกเลยว่าไม่ได้เป็นมือโปรอะไรนะ อาศัยโปรแกรมง่ายๆ อย่าง PowerPoint บ้าง Canva บ้าง เน้นรูปภาพเยอะๆ สีสันสดใสๆ มีเกมเล็กๆ น้อยๆ สอดแทรกเข้าไป ให้เด็กๆ รู้สึกสนุก ไม่ใช่มานั่งจ้องแต่ตัวหนังสืออย่างเดียว
- หาแพลตฟอร์มสำหรับสอนออนไลน์: อันนี้ก็เลือกที่ไม่ยุ่งยากมาก คิดว่าเด็กๆ หรือผู้ปกครองน่าจะคุ้นเคย สุดท้ายก็มาจบที่ Google Meet บ้าง Zoom บ้าง สลับๆ กันไป แล้วแต่ว่าช่วงไหนอันไหนมันเสถียรกว่า
- แล้วจะหาเด็กๆ มาเรียนจากไหนล่ะ?: อันนี้ก็ไม่ได้โปรโมทอะไรใหญ่โตเลย อาศัยบอกกันปากต่อปากนี่แหละ บอกเพื่อนสนิท บอกญาติๆ ว่าเนี่ยจะลองเปิดสอนภาษาอังกฤษฟรีนะ ใครมีลูกหลานสนใจก็ลองชวนมาเรียนดู ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนมาเรียนเยอะแยะอะไร
ประสบการณ์ตอนสอนจริงเป็นยังไง
วันแรกที่สอนนี่บอกเลยว่าตื่นเต้นสุดๆ! เด็กๆ ก็จะยังเงียบๆ เกรงๆ กันอยู่ เราก็พยายามชวนคุย เล่นเกมนำไปก่อนเลย ให้บรรยากาศมันผ่อนคลาย พอเริ่มคุ้นเคยกันเท่านั้นแหละ โอ้โห…ห้องเรียน (ออนไลน์) แทบแตก! (หัวเราะ) แต่เป็นความวุ่นวายที่น่ารักนะ เด็กๆ เค้ามีพลังงานเยอะจริงๆ
ช่วงแรกๆ ก็มีตะกุกตะกักบ้าง บางทีเราเตรียมเนื้อหามาแบบนึง แต่พอสอนจริง เด็กๆ ดันไปสนใจอีกเรื่องซะงั้น ก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนแผนกันหน้างานเลย สิ่งสำคัญที่สุดที่เราเรียนรู้เลยคือความอดทน เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันเลยจริงๆ บางคนกล้าพูดกล้าถาม บางคนขี้อายมากๆ เราก็ต้องคอยสังเกต แล้วก็หากิจกรรมที่มันดึงดูดให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้
มีเรื่องนึงที่จำได้ไม่ลืมเลยคือ มีน้องคนนึงตอนแรกๆ ไม่ยอมพูดอะไรเลย ถามอะไรก็ส่ายหน้าอย่างเดียว เราก็ไม่ได้บังคับเค้านะ แต่จะพยายามชวนคุยบ่อยๆ ชมเวลาเค้าทำอะไรได้นิดๆ หน่อยๆ ผ่านไปประมาณเดือนนึงมั้ง น้องเค้าเริ่มตอบเป็นคำๆ ได้ พอเห็นเค้ายิ้มแล้วกล้าพูดภาษาอังกฤษออกมาแบบมั่นใจขึ้นนิดนึงนะ โอ๊ย…บอกเลยว่าความรู้สึกตอนนั้นมันใจฟูมากๆ
อุปสรรคที่เจอก็มีบ้างนะ ไม่ใช่ราบรื่นตลอด
แน่นอนว่าการทำอะไรแบบนี้มันก็ต้องมีอุปสรรคบ้างแหละ:
- ปัญหาเรื่องอินเทอร์เน็ต: อันนี้เป็นเรื่องคลาสสิกเลยสำหรับการเรียนออนไลน์ บางทีสัญญาณเน็ตบ้านเราดี แต่เน็ตบ้านน้องนักเรียนไม่ค่อยดี ภาพกระตุก เสียงขาดๆ หายๆ ก็ต้องพยายามแก้ปัญหากันไป บางทีก็ต้องเลื่อนคลาสบ้าง
- ความสม่ำเสมอของเด็กๆ: อันนี้ก็เข้าใจได้นะ เพราะว่ามันเป็นคลาสฟรี ผู้ปกครองบางท่านก็อาจจะไม่ได้ซีเรียสมากว่าต้องเข้าเรียนทุกครั้ง บางทีน้องๆ ก็อาจจะมีกิจกรรมอื่น หรือไม่สบายบ้าง ก็ต้องทำใจนิดนึง
- ความเหนื่อยล้าของเราเอง: ถึงจะบอกว่าทำด้วยใจรัก ทำแล้วมีความสุข แต่บางครั้งมันก็มีเหนื่อยบ้างเหมือนกันนะ ทั้งเตรียมการสอน ทั้งสอนจริง มันก็ใช้พลังงานเยอะพอสมควรเลย
สิ่งที่ได้กลับมา (มันมากกว่าเงินทองจริงๆ)
ถ้าถามว่าทำแล้วได้อะไร ตอบได้เลยว่าได้ความสุขล้วนๆ! การที่เราได้เห็นเด็กๆ ค่อยๆ เรียนรู้ภาษาอังกฤษ จากที่ไม่กล้าพูดเลยจนเริ่มพูดได้เป็นประโยค ได้เห็นแววตาที่พวกเขาสนุกกับการเรียน มันเป็นอะไรที่เติมเต็มความรู้สึกเรามากๆ
นอกจากความสุขแล้วนะ เรายังได้ฝึกทักษะของตัวเองไปด้วย ทั้งทักษะการสอน การสื่อสารกับเด็กๆ การคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ที่เป็นผู้ปกครองของเด็กๆ ด้วยนะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากครั้งหนึ่งในชีวิตเลย

สุดท้ายนี้ ถ้าใครกำลังคิดอยากจะลองทำอะไรแบบนี้ดูบ้างนะ ไม่ว่าจะเป็นการสอน หรือการแบ่งปันความรู้อื่นๆ อยากจะบอกว่า ลองเลย! ไม่ต้องกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีพอหรอก แค่เรามีความตั้งใจจริง เด็กๆ หรือคนที่เราอยากจะช่วย เขาสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีของเราอยู่แล้ว สู้ๆ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments